ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายสายพานให้แก่โจทก์ โดยจะส่งมอบภายใน240 วัน นับจากวันทำสัญญา หากจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งมอบสิ่งของไม่ถูกต้องโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและจำเลยยอมให้โจทก์ริบหลักประกันแต่ถ้าโจทก์ยังไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญา จำเลยยอมให้โจทก์ปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังมิได้ส่งมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญา จนถึงวันที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วน ถ้าโจทก์เห็นว่าจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ โจทก์จะใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบหลักประกันนอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ จำเลยส่งมอบสายพานไม่ตรงตามชนิดที่ระบุในสัญญาโจทก์จึงไม่ยอมรับและมีหนังสือเตือนจำเลยให้ส่งมอบของให้ถูกต้องตามสัญญาอีกหลายครั้งจำเลยก็อ้างเหตุขัดข้องต่าง ๆ ทั้งขอแก้เงื่อนไขสัญญาตลอดมา เมื่อโจทก์เห็นว่าจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ จึงบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกัน และเตือนจำเลยให้ชำระเงินค่าปรับร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้ส่งมอบ จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าปรับแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเพราะได้ส่งมอบสินค้าให้โจทก์แล้วสิ่งของที่ส่งมอบมีคุณภาพไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญา โจทก์พยายามถ่วงเวลาเพื่อให้ได้ค่าปรับมากขึ้น หากโจทก์ยอมเลิกสัญญาตามหนังสือขอร้องของจำเลยจำเลยจะถูกปรับเป็นเงินไม่ถึงจำนวนที่โจทก์ฟ้อง อย่างไรก็ตามเมื่อโจทก์ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันแล้วก็ไม่ควรเรียกค่าปรับอีก ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ในวันนัดสืบพยาน โจทก์จำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงกันบางประการแล้วขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่า เมื่อโจทก์ริบเงินมัดจำแล้วจะยังมีสิทธิเรียกเอาค่าปรับเป็นรายวันตามสัญญาได้อีกหรือไม่ เป็นจำนวนเท่าใด

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์เลือกเอาการบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันแล้ว จึงไม่มีสิทธิเรียกเอาเงินค่าปรับเป็นรายวัน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ริบเงินมัดจำและเรียกเงินค่าปรับเป็นรายวันได้

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ถ้าโจทก์เรียกเอาเงินค่าปรับรายวันก่อนแล้วเห็นว่าจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาได้ จึงอาจบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันได้เมื่อโจทก์มิได้เรียกเอาเงินค่าปรับเป็นรายวันก่อน จึงไม่มีสิทธิเรียกเอาเงินค่าปรับเป็นรายวันภายหลัง พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาข้อ 8 เมื่อผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้ออาจบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้หรือไม่ส่วนข้อ 9 ผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายยังอาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ จึงยอมให้ผู้ขายส่งของเมื่อพ้นกำหนดเวลาส่งมอบตามสัญญาได้ แต่ผู้ขายจะต้องถูกปรับเป็นรายวัน นับตั้งแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันส่งมอบของเรียบร้อย เมื่อผู้ซื้อยอมผ่อนปรนให้เช่นนี้แล้วถ้าผู้ขายยังทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อก็ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ความแตกต่างระหว่างข้อ 8 กับข้อ 9 อยู่ที่ว่า ข้อ 8 ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยไม่ยอมผ่อนปรนให้ผู้ขาย ส่วนข้อ 9 ผู้ซื้อได้ยอมผ่อนปรนให้ผู้ขายแล้ว แต่ผู้ขายทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อจึงใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา สำหรับกรณีระหว่างโจทก์จำเลยได้ความว่า เมื่อจำเลยผิดสัญญาโดยส่งของไม่ถูกต้อง โจทก์ก็แจ้งให้จำเลยนำของไปเปลี่ยนถึง 3 ครั้ง แสดงว่าโจทก์ไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 แต่ยอมให้จำเลยส่งมอบของได้แม้พ้นกำหนดเวลาแล้วซึ่งจำเลยก็ไม่อาจจัดหาของตามที่ระบุไว้ในสัญญามาส่งมอบได้ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญารูปคดีต้องปรับด้วยสัญญาข้อ 9 โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาเงินค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลยได้

ปัญหาต่อไปมีว่า โจทก์ควรจะได้รับเบี้ยปรับเป็นจำนวนเงินเท่าใด ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลล่างวินิจฉัย ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือแจ้งว่าส่งของไม่ถูกต้องตามสัญญาก็ชี้แจงให้โจทก์ทราบว่าเกิดการเข้าใจผิดในเรื่องสินค้าระหว่างบริษัทผู้ผลิตกับจำเลย จำเลยขอยกเลิกสัญญาโดยยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาทุกประการ โจทก์ไม่เลิกสัญญาตามที่จำเลยขอกลับตอบว่าของมีขายในท้องตลาดให้ปฏิบัติตามสัญญา จำเลยหาซื้อแล้วแต่ของไม่มีขาย สอบถามถึงสถานที่ที่มีขายก็ไม่ปรากฏคำตอบจากโจทก์ จำเลยยืนยันขอยกเลิกสัญญาทุกครั้งที่โจทก์เตือน ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยแจ้งว่าไม่อาจปฏิบัติตามสัญญา ขอรับผิดตามเงื่อนไขของสัญญาแล้ว โจทก์หาควรฝืนใจจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกไม่ น่าจะอนุมัติเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือจึงสมควรลดเบี้ยปรับให้จำเลย คงปรับตั้งแต่วันที่จำเลยผิดสัญญาจนถึงวันที่หนังสือขอยกเลิกสัญญาของจำเลยถึงโจทก์

พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เบี้ยปรับแก่โจทก์ ตั้งแต่วันที่จำเลยผิดสัญญาจนถึงวันที่หนังสือขอยกเลิกสัญญาของจำเลยถึงโจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th