ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ 3327 ตำบลในเมือง (ยางซ้าย) อำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัย จำเลยละเมิดสิทธิของโจทก์โดยเข้าไปทำประโยชน์ทำนาในที่ดินแปลงพิพาท โจทก์มอบอำนาจให้ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลยเพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวและใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงพิพาทแต่เพิกเฉยไม่ยอมออกจากที่ดินแปลงพิพาท การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายขอให้บังคับจำเลยและบริวารอพยพขนย้ายและห้ามใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงพิพาท

จำเลยให้การว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่ได้บรรยายว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในส่วนใดของโฉนดที่ดินที่โจทก์ฟ้องส่วนใดเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพิณ เทพทอง จำเลยรุกที่ดินของโจทก์แต่เมื่อใดทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ โจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินตามฟ้องหรือผู้มีชื่อในโฉนดเดิมคนใดไม่ได้ครอบครองที่ดิน ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น พิพากษายกฟ้องแต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในกำหนดอายุความ

โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์อุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่พิเคราะห์แล้วโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ 3327 ตำบลในเมือง (ยางซ้าย)อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 68 ตารางวาจำเลยได้บังคับเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยการทำนาโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ห้ามจำเลยแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวไม่ให้จำเลยยุ่งเกี่ยวและใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงพิพาท จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้วดังนี้ เห็นว่า โจทก์ได้กล่าวถึงสภาพแห่งข้อหาว่าจำเลยทำละเมิดเข้าไปใช้ประโยชน์โดยทำนาในที่ดินของโจทก์และบรรยายถึงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาคือ โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวไม่ให้จำเลยยุ่งเกี่ยวและใช้ประโยชน์ในที่ดินของโจทก์แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามฟ้องโจทก์จึงได้บรรยายโดยแจ้งชัดแล้ว โจทก์หาจำต้องกล่าวให้ละเอียดไปถึงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในส่วนใดของโฉนดที่ดินที่โจทก์ฟ้อง และส่วนใดเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพิณ เทพทองจำเลยบุกรุกเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์ตั้งแต่เมื่อใดดังที่จำเลยให้การไม่ เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา และในคดีแพ่งโจทก์หาจำต้องบรรยายข้อเท็จจริงอันเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดกรณีพิพาทมาในฟ้องดังเช่นการบรรยายฟ้องในคดีอาญาแต่อย่างใดไม่ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง แล้วที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น"

พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th