ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน877,725.98 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 9 มกราคม 2528 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้ยึดทรัพย์ที่จำเลยจำนองโจทก์ไว้และทรัพย์สินอื่นบังคับชำระหนี้จนครบ จำเลยทราบคำบังคับแล้วไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาโจทก์จึงร้องขอบังคับคดี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2532 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 8713 แขวงบางขุนพรหมเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 40 ของจำเลยตามคำสั่งศาลปรากฏว่านางสบายดีเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดซื้อได้ในราคา1,020,000 บาท แต่นางสบายดีไม่วางเงินมัดจำค่าซื้อตามสัญญาเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวใหม่ผู้สู้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อรายใหม่ซื้อได้ในราคา 670,000 บาทและชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งหลังได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งแรก เป็นเงิน 334,520 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งให้นางสบายดีนำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระ แต่นางสบายดีเพิกเฉย

เจ้าพนักงานบังคับคดีทำหนังสือยื่นต่อศาล ขอให้ออกหมายบังคับคดียึดอายัดทรัพย์สินของนางสบายดีขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระส่วนที่ขาดจำนวน 334,520 บาท

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีกฎหมายให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะร้องขอให้บังคับคดีในกรณีเช่นนี้ ไม่อาจดำเนินการให้ได้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์ พิพากษายกอุทธรณ์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของโจทก์มีว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ออกหมายบังคับคดียึดอายัดทรัพย์สินของนางสบายดีได้หรือไม่ เห็นว่า สาเหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำหนังสือยื่นต่อศาลชั้นต้น ขอให้ออกหมายบังคับคดียึดอายัดทรัพย์สินของนางสบายดีก็เพราะนางสบายดีเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดชั้นเดิม แล้วละเลยไม่วางเงินมัดจำค่าซื้อตามสัญญาจนเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องขายทอดตลาดอีกซ้ำหนึ่ง และได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม ซึ่งนางสบายดีผู้สู้ราคาเดิมจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 516 แต่การกระทำของนางสบายดีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามกฎหมายแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 หาใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรืออำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ ประกอบกับการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร้องขอให้บังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ซึ่งผู้ร้องขอจะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและจะต้องมีคำพิพากษาของศาลให้นางสบายดีตกเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาเสียก่อน และเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ด้วยประการใดเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีอำนาจขอให้ออกหมายบังคับคดียึดอายัดทรัพย์สินของนางสบายดีโดยไม่ต้องฟ้องนางสบายดีเป็นคดีใหม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th