ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีทั้งสามสำนวนนี้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษารวมกัน โดยโจทก์ฟ้องมีใจความว่า จำเลยมีตำแหน่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนประชาบูรณะวิทยาและมีหน้าที่สอนนักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 และปีที่ 4 จำเลยได้กระทำอนาจารแก่เด็กหญิงศิริมณฑล เด็กหญิงลำใยและเด็กหญิงมยุรี ซึ่งแต่ละคนมีอายุ 11 ปี และเป็นนักเรียนโรงเรียนประชาบูรณะวิทยาและเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลย โดยจำเลยจับมือของเด็กหญิงดังกล่าวครั้งละ 1 คนดึงไปจับของลับ (ลึงค์) ของจำเลย แล้วบังคับให้เด็กหญิงเหล่านั้นจับของลับของจำเลยรูดไปมาจนน้ำอสุจิของจำเลยไหล ทั้งนี้ โดยเด็กหญิงทั้งสามคนนั้นไม่อาจขัดขืนได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285 และนับโทษต่อกัน

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรค 2, 285 จำคุกสำนวนละ 1 ปี 6 เดือน และให้นับโทษต่อกัน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิด พิพากษายกฟ้องทั้งสามสำนวน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยบังคับและจับมือของเด็กหญิงแต่ละคนให้จับของลับของจำเลยรูดไปมาจนน้ำอสุจิของจำเลยไหล แล้ววินิจฉัยว่าการที่จำเลยบังคับจับมือเด็กหญิงทั้งสามคนดังกล่าวให้จับของลับของจำเลยและจับมือให้รูดไปมาจนน้ำอสุจิของจำเลยไหล เห็นได้ว่าตัวของเด็กหญิงดังกล่าวได้เข้าเกี่ยวข้องในการกระทำอนาจารนั้นด้วย จึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำอนาจารแก่เด็กหญิงทั้งสามคนนั้น ส่วนการกระทำของจำเลยจะถือว่าเป็นการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลอันจะทำให้จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 หรือไม่เห็นว่า นอกจากเป็นครูสอนเด็กหญิงทั้งสามแล้ว จำเลยยังเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนนี้ด้วย แม้เด็กหญิงทั้งสามคนมาเรียนในตอนเช้าตามปกติและเมื่อเลิกเรียนแล้วเด็กหญิงทั้งสามคนกลับบ้านก็ตาม ก็เห็นได้ว่าการควบคุมดูแลปกป้องเด็กหญิงทั้งสามคนนั้นได้อยู่กับจำเลยตลอดระยะเวลาที่โรงเรียนได้เปิดทำการสอนอยู่ตามปกติเมื่อจำเลยได้กระทำอนาจารแก่เด็กหญิงทั้งสามคนในระหว่างที่โรงเรียนได้เปิดทำการสอนอยู่ตามปกติ ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลตามความหมายของมาตรา 285 ดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงมีความผิดดังฟ้องโจทก์การที่จำเลยกระทำอนาจารแก่เด็กหญิงทั้งสามคน แม้จะได้กระทำในสถานที่แห่งเดียวกัน และในเวลาต่อเนื่องใกล้ชิดกัน แต่ก็เป็นการกระทำต่อเด็กหญิงครั้งละหนึ่งคน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกระทง แต่ความผิดของจำเลยแต่ละกระทงมีโทษเท่ากัน เมื่อพิจารณาถึงการกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแล้ว เห็นสมควรลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียว ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1286/2515

พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279 วรรค 2, 285

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th