ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความจะขายที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 1688 ให้แก่โจทก์ในราคา15,000 บาท โจทก์ชำระราคาให้จำเลย 12,500 บาทแล้วต่อมาจำเลยผิดสัญญา ขอให้จำเลยรับเงินจำนวน 2,500 บาทและจดทะเบียนโอนที่ดินตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 1688 แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยขายที่ดินให้โจทก์ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับชำระเงิน 2,500 บาทจากโจทก์ แล้วให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 1688 ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า สัญญาประนีประนอมยอมความเอกสารหมาย จ.5 มีผลผูกพันให้จำเลยเจ้าของที่ดินต้องโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เอกสารหมาย จ.5 ที่นายทองดีทำกับโจทก์นั้น ไม่มีข้อความหรือรายละเอียดกล่าวถึงว่านายทองดีผู้จะขายที่ดินพิพาทได้รับมอบหมายจากผู้ใดให้มาทำกิจการอันใด และผู้ใดเป็นตัวการบ้าง พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยได้เชิดให้นายทองดีมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์นั้น เห็นว่าคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทตามฟ้องได้เชิดให้นายทองดีเป็นตัวแทนมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความเอกสารหมาย จ.5 ขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนั้น แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความเอกสารหมาย จ.5 จะไม่ได้ระบุว่านายทองดีผู้จะขายที่ดินได้รับมอบหมายจากจำเลยหรือระบุว่าจำเลยเป็นตัวการเกี่ยวกับการขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยซึ่งเป็นตัวการของนายทองดีพ้นความรับผิดตามสัญญาดังกล่าวได้ เมื่อมิใช่เป็นเรื่องการตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันตามปกติ แต่เป็นเรื่องตัวแทนเชิด กิจการดังกล่าวนั้น ไม่ต้องทำเป็นหนังสือแต่งตั้งตัวแทน จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ทั้งนี้ตามนัยที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th