ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรคแรก ให้ปรับ 4,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีนี้จำเลยฎีกาได้เฉพาะข้อกฎหมายในการวินิจฉัยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยที่ว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่นั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า นายชาญ พุทธิจุล เจ้าของนาที่ให้จำเลยเช่าทำได้บอกขายนาให้แก่จำเลยแล้ว แต่ตกลงในเรื่องชำระเงินกันไม่ได้ จำเลยจึงไม่ซื้อ ต่อมาจำเลยได้ฟ้องโจทก์ต่อศาลชั้นต้นขอให้บังคับโจทก์ขายนาแก่จำเลย อ้างว่านายชาญขายนาที่จำเลยเช่าทำอยู่ให้แก่โจทก์ โดยนายชาญมิได้แจ้งการขายนาพร้อมทั้งราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินเป็นหนังสือให้จำเลยทราบตามพระราชบัญญัติ การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ก่อน คดีดังกล่าวจำเลยได้เบิกความเป็นพยานในชั้นพิจารณาว่า การที่นายชาญพุทธิจุลขายนาให้จำเลย (โจทก์คดีนี้) นายชาญไม่ได้บอกข้าฯ ก่อนหากนายชาญบอกข้าฯ จะซื้อไว้เอง คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นความเท็จ

ปัญหาว่าข้อความที่จำเลยเบิกความดังกล่าวเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่เห็นว่า ข้อความที่เป็นข้อสำคัญในคดีจะต้องเป็นข้อความที่อาจทำให้คู่ความต้องแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดีได้ ซึ่งตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 นั้น ผู้ให้เช่านาจะขายนาที่ให้เช่าได้ต่อเมื่อได้แจ้งให้ผู้เช่านาทราบเป็นหนังสือแสดงความจำนงจะขายนา โดยระบุราคาที่จะขายและวิธีการชำระเงินยื่นต่อประธาน คชก. ตำบล เพื่อแจ้งให้ผู้เช่านาทราบภายใน 15 วัน ถ้าผู้เช่านาไม่แสดงความจำนงจะซื้อนาภายในกำหนด 30 วัน หรือปฏิเสธเป็นหนังสือหรือแสดงความจำนงจะซื้อนาแต่ไม่ชำระเงินในกำหนดเวลาที่ตกลงกันหรือเวลาที่ คชก. ตำบลกำหนด จึงจะถือว่าผู้เช่านาหมดสิทธิที่จะซื้อนา แต่ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าที่นายชาญผู้ให้เช่านาบอกขายนาให้แก่จำเลยนั้นเป็นการบอกขายกันเองมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 กำหนดไว้ การที่นายชาญขายนาที่จำเลยเช่าให้แก่โจทก์ จำเลยผู้เช่านาจึงไม่หมดสิทธิที่จะซื้อนา ดังนั้น ข้อความที่จำเลยเบิกความจึงไม่เป็นข้อความที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดีได้ คำเบิกความของจำเลยจึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th