ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาทพร้อมใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องและให้เพิกถอน น.ส.3 ก. ที่พิพาท

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดของศาลชั้นต้นโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยานพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ยกฟ้องแย้งของจำเลย

จำเลย อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์ จำเลยในประเด็นว่าที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 993 โจทก์หรือจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองและยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยในประเด็นดังกล่าวให้สิ้นกระแสความเสียก่อนแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 993 (1206) และรื้อถอนรั้ว โรงเรือนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินพิพาท ยกฟ้องแย้งของจำเลย

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปรากฏว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เมื่อวันที่10 มีนาคม 2538 เวลา 9 นาฬิกา ในวันเดียวกันนั้นนายกมล แจวเจริญ ทายาทโดยธรรมของจำเลยได้แต่งให้นายนิสิต อนันต์รักษ์ เป็นทนายความยื่นคำร้องลงวันที่10 มีนาคม 2538 ว่า จำเลยได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน2537 ด้วยโรคหัวใจวายตามสำเนาใบมรณบัตรท้ายคำร้องศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า "สำเนาให้โจทก์นัดไต่สวน จะคัดค้านประการใด ให้คัดค้านภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจคัดค้านให้จำเลย (ที่ถูกผู้ร้อง) นำส่งหมายภายใน7 วันปิดหมาย" ในวันที่ 10 มีนาคม 2538 นั่นเอง ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้นายกมล แจวเจริญ ฟังโดยระบุว่าเป็นทนายจำเลย โดยศาลชั้นต้นยังไม่ได้ทำการไต่สวนคำร้องของนายกมล แจวเจริญ ที่ขอเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะกรณีนี้เป็นเรื่องที่จำเลยถึงแก่กรรมในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จะพิพากษาคดีไปโดยที่ยังไม่มีคำสั่งอนุญาตให้ทายาทของจำเลยผู้มรณะหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของจำเลยผู้มรณะเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะหาได้ไม่ดังนั้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงไม่ชอบการที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้โจทก์ฟัง จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ กรณียังถือไม่ได้ว่านายกมล แจวเจริญทายาทได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยโดยชอบแต่ประการใดนายกมล แจวเจริญ จึงไม่มีสิทธิที่จะยื่นฎีกาได้ ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 และยกฎีกาของจำเลยคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้จำเลย ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th