สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2543

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1195 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 57 (2)

ผู้ที่จะขอเข้ามาในคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (2) จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี คือ จะต้องเป็นผู้ที่ถูกกระทบกระเทือนหรือถูกบังคับโดยคำพิพากษาในคดีนี้โดยตรง

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดเป็นนิติบุคคล มีสิทธิและหน้าที่แยกต่างหากจากผู้ถือหุ้น หากโจทก์ชนะคดี ผู้มีหน้าที่ต้องจัดการต่อไปตามผลของคดีคือจำเลยที่ 1 โดยกรรมการของจำเลยที่ 1 ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหาได้มีหน้าที่ต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำการใด ๆ ตามคำพิพากษาไม่ สิทธิของผู้ร้องในฐานะผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1 ยังคงมีอยู่โดยสมบูรณ์เช่นเดิม ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ไม่อาจขอเข้ามาในคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (2) ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ ๑

จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ ๑ ผู้ร้องเข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้น และเป็นผู้ร่วมลงมติเห็นชอบในการประชุมดังกล่าว ซึ่งการประชุมดังกล่าวได้ดำเนินไปโดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายหากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีคำพิพากษาย่อมผูกพันผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ให้ค่าคำร้องเป็นพับ

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ที่จะขอเข้ามาในคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๕๗ (๒) จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ซึ่งหมายความว่าผลของคดีตามกฎหมายจะเป็นผลไปถึงตนโดยจะต้องเป็นผู้ที่ถูกกระทบกระเทือนหรือ ถูกบังคับโดยคำพิพากษาในคดีนี้โดยตรง ในเมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด เป็นนิติบุคคลมีสิทธิและหน้าที่แยกต่างหากจากผู้ถือหุ้น มีกรรมการเป็นผู้ทำการแทน ดังนั้น หากโจทก์ชนะคดี ต้องเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ ๑ ผู้มีหน้าที่ต้องจัดการต่อไป ตามผลของคดีก็คือจำเลยที่ ๑ โดยกรรมการของจำเลยที่ ๑ ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ ๑ หาได้มีหน้าที่ต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำการใด ๆ ต่อผลของคำพิพากษาที่โจทก์ขอบังคับด้วยไม่ สิทธิของผู้ร้องในฐานะผู้ถือหุ้นของ จำเลยที่ ๑ ยังคงมีอยู่โดยสมบูรณ์เช่นเดิม ผู้ร้องจึงมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามความหมายของ มาตรา ๕๗ (๒) นอกจากนี้ผู้ร้องก็อาจขอให้จำเลยทั้งสี่นำผู้ร้องและพยานหลักฐานที่ผู้ร้องมีเข้านำสืบอ้างส่งต่อศาล เป็นพยานฝ่ายจำเลยได้อยู่แล้ว ผู้ร้องหาจำเป็นต้องร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยไม่ ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายเอก โฆษ์วงศ์ ผู้ร้อง - นางสาววิไลรัตน์ พฤกษวิวัฒน์ จำเลย - บริษัทเฟิสท์เท็กซ์ไทล์ จำกัด กับพวก

ชื่อองค์คณะ โนรี จันทร์ทร พินิจ เพชรรุ่ง ทวีวัฒน์ แดงทองดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดสมุทรปราการ - นายสุรพล นิตินัยวินิจ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 - นายสุรพล เจียมจูไร

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE