ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 มาตรา 4 ได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504) ระบุว่าวัวแดงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 บางชนิด ในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคมทุกปีโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ทราบทั่วกัน จำเลยได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2513 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนไรเฟิลหมายเลขทะเบียน ก.จ.3/3816 ของนายเบี้ยว ยิงวัวแดง 1 ตัวในบริเวณป่าด่านแม่แฉลบโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และจำเลยที่ 1 บังอาจมีอาวุธปืนไรเฟิลของนายเบี้ยวกับกระสุน 15 นัด ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 มาตรา 9, 39, 47 กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 ข้อ 2 ประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดระยะเวลาห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 บางชนิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 ข้อ 1(2) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 ริบอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้คืนอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางแก่เจ้าทรัพย์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 มาตรา 9, 39กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 ข้อ 2 ประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดระยะเวลาห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 บางชนิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 ข้อ 1(2)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เฉพาะจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 อีกด้วย ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 72 ซึ่งเป็นกระทงหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุก 6 เดือน และปรับ 1,000 บาท แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ อาวุธปืนของกลางให้ริบเสียตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 และริบกระสุนของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 มาตรา 39 ปรับ 1,000 บาท

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันล่าวัวแดงซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 ในระยะเวลาที่ห้ามล่า โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนไรเฟิลของกลางซึ่งใช้ยิงวัวแดงดังกล่าวไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่าโจทก์ไม่ได้นำสืบถึงว่าจำเลยได้ทราบประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดระยะเวลาห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 เป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้น ว่า ประกาศกระทรวงเกษตรดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วย่อมถือได้ว่าเป็นอันรู้แก่บุคคลทั่วไปรวมทั้งจำเลยด้วย โจทก์จึงมิต้องนำสืบ ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่าอาวุธปืนของกลางมีเลขหมายทะเบียนศาลสั่งริบไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น วินิจฉัยว่าศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ริบปืนที่ใช้ล่าวัวแดงและถูกยึดไว้เป็นของกลางได้ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 เพราะปืนไรเฟิลเป็นอาวุธซึ่งจำเลยใช้ในการกระทำผิด อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 9 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัตินี้ ที่จำเลยอ้างว่าเจ้าของปืนยังไม่ได้ร่วมในการกระทำผิดนั้น เห็นว่าเรื่องเจ้าของปืนร่วมกระทำผิดหรือไม่มิได้มีประเด็นที่จะนำสืบกันในคำนี้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th