ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำเป็นพนักงานขับรถส่งของจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายค่าชดเชยเป็นการบอกเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย และค่าเสียหายกับให้ชำระดอกเบี้ยสำหรับเงินต้นสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์ขับรถส่งของแล้วไม่ยกของลงจากรถส่งให้แก่ผู้รับตามหน้าที่กับละทิ้งหน้าที่ คือ โจทก์ขับรถส่งของเสร็จแล้วไม่นำรถกลับโรงงาน กลับละทิ้งรถไว้ จำเลยต้องนำรถกลับเอง เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับอย่างร้ายแรง การเลิกจ้างของจำเลยชอบด้วย

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ขับรถส่งของตามหน้าที่แล้วย่อมมีหน้าที่ขับรถกลับด้วย แม้ช่วงเวลา 16 ถึง 18 นาฬิกา ทางราชการห้ามรถบรรทุกวิ่งก็หาให้โจทก์พ้นหน้าที่ต้องขับรถกลับไม่ การกระทำของโจทก์จึงเป็นการขัดคำสั่ง ถือได้ว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ให้ถูกต้องและสุจริตการเลิกจ้างของจำเลยจึงมีสาเหตุอันสมควรมิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมอันจำเลยจะต้องรับผิดต่อความเสียหาย และจำเลยเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า แต่การที่โจทก์จอดรถทิ้งไว้โดยมีพนักงานยกของเฝ้าไว้และโจทก์ยังได้แจ้งทางโทรศัพท์ให้จำเลยส่งคนไปขับรถกลับได้โดยเรียบร้อยเป็นการขัดคำสั่งมิใช่เป็นกรณีที่ร้ายแรง โจทก์ไม่เคยถูกตักเตือนในเรื่องนี้มาก่อน เมื่อจำเลยเลิกจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีนี้คู่ความมิได้ส่งข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยต่อศาลเพื่อให้ศาลพิเคราะห์ว่าการกระทำของโจทก์นั้นเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายอันเป็นกรณีที่ร้ายแรงตามที่จำเลยต่อสู้หรือไม่ ดังนั้น การจะปรับว่าการกระทำของโจทก์เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายอันเป็นกรณีที่ร้ายแรงย่อมปรับมิได้การที่โจทก์ให้พนักงานยกของเฝ้ารถไว้แล้วแจ้งทางโทรศัพท์ให้จำเลยทราบว่าตนไม่สามารถนำรถกลับได้ เพราะทางราชการห้ามมิให้รถบรรทุกวิ่งในช่วงเวลา16 นาฬิกา ถึง 18 นาฬิกา นั้น เป็นเหตุผลอันสมควรสำหรับโจทก์จึงจะถือว่าการทิ้งรถในลักษณะนี้เป็นกรณีที่ร้ายแรงยังไม่ได้

การที่พิจารณาว่าการกระทำใดของลูกจ้างเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายอันเป็นกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่นั้น จักต้องพิจารณาจากการกระทำนั้นโดยเฉพาะ จะนำเอาความผิดครั้งก่อน ๆ มาพิจารณาประกอบแล้วถือว่าการกระทำครั้งหลังเป็นกรณีที่ร้ายแรงหาชอบไม่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) ได้เปิดโอกาสให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยในกรณีที่ลูกจ้างกระทำความผิดไม่ร้ายแรงอยู่แล้ว ทั้งนี้โดยให้ตักเตือนเป็นหนังสือก่อนสำหรับความผิดนั้น เมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ เปิดโอกาสให้จำเลยดังกล่าว จำเลยจะนำเอาความผิดครั้งก่อนมาประกอบการพิจารณาสำหรับความผิดครั้งหลังให้เป็นกรณีที่ร้ายแรงย่อมไม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th