ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์โจทก์สิทธิครอบครองที่พิพาท ให้เพิกถอน น.ส. 3 ก. สำหรับที่พิพาทซึ่งมีชื่อจำเลย ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยออกจากที่พิพาทภายใน 30 วันครบกำหนดตามคำบังคับจำเลยและบริวารไม่ยอมออก ศาลชั้นต้นหมายเรียกจำเลยและบริวารมาสอบถาม จำเลยแถลงว่าตามคำพิพากษาของศาลไม่ได้พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารให้ออกไปจากที่พิพาทนางยานผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์แถลงว่าหากจำเลยและบริวารจะอยู่ในที่พิพาทต่อไปอีก 30 วัน ก็ไม่ขัดขวาง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทภายในกำหนด 30 วัน

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 บัญญัติว่า "คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลที่ชี้ขาดคดีต้องตัดสินตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อ แต่ห้ามมิให้พิพากษาหรือทำคำสั่งให้สิ่งใด ๆ เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง เว้นแต่ (1) ในคดีฟ้องเรียกอสังหาริมทรัพย์ ให้พึงเข้าใจว่าเป็นประเภทเดียวกับฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยถ้าพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ คำสั่งศาลเช่นว่านี้ให้ใช้บังคับตลอดถึงวงศ์ญาติทั้งหลายและบริวารของจำเลยที่อยู่บนอสังหาริมทรัพย์นั้น ซึ่งไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้" เห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทให้เพิกถอน น.ส. 3 ก.สำหรับที่พิพาทซึ่งมีชื่อจำเลย มิได้พิพากษาให้จำเลยออกจากที่พิพาทฉะนั้นศาลชั้นต้นจะออกคำบังคับให้จำเลยออกจากที่พิพาทภายในกำหนด30 วันไม่ได้ เพราะเป็นการออกคำบังคับเกินกว่า คำพิพากษาศาลฎีกา จริงอยู่แม้คดีนี้จะเป็นคดีฟ้องเรียกอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) บัญญัติว่า "ให้พึงเข้าใจว่าเป็นประเภทเดียวกับฟ้อง่ขอให้ขับไล่จำเลย ถ้าศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้" ย่อมหมายความว่าศาลจะต้องเห็นสมควรและมีคำสั่งไว้ขณะเมื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดี มิฉะนั้นแล้วในชั้นบังคับคดีก็จะเกิดโต้เถียงกันไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะคดีนี้โจทก์เป็นยายจำเลยโจทก์อาจประสงค์เพียงให้ที่ดิน น.ส.3 ก. ที่พิพาทซึ่งมีชื่อจำเลยกลับมาเป็นชื่อของโจทก์เท่านั้น โดยไม่ประสงค์จะขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท จึงมิได้มีคำขอท้ายฟ้องให้ขับไล่จำเลยในขณะยื่นฟ้อง ฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยออกจากที่พิพาทภายในกำหนด 30 วัน และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนมานั้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ออกคำบังคับให้จำเลยออกจากที่พิพาทภายใน 30 วัน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th