ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2505 เวลากลางวัน จำเลยได้ตัดฟันทำไม้ตังหน 1 ต้น ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยได้มีไม้นั้นปริมาตร 1.24 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม้นี้เป็นไม้ที่ยังมิได้แปรรูป มิได้มีรอยตราฯ และจำเลยพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 69, 73, 74,74 ทวิ; (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 6, 16,17; (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 12, 17, 18 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามบทมาตราที่โจทก์ขอ แต่การตัดฟันไม้และการมีไม้ที่ตนตัดฟันไว้ในครอบครอง เป็นกรรมเดียวซึ่งผิดกฎหมายหลายบท แต่โทษตามกฎหมายเท่ากันไม่มีบทหนัก จึงให้ลงโทษฐานตัดฟันไม้ ไม่ควรรับโทษฐานมีไม้ไว้ในครอบครองซ้ำอีกปรับ 500 บาท ลดแล้วคงปรับ 250 บาท ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า การตัดฟันไม้กับการมีไม้ไว้ในครอบครองมิใช่ความผิดที่อยู่ในกรรมเดียวกัน หากจำเลยตัดฟันทิ้งไป ก็คงผิดเพียงฐานตัดฟันเท่านั้น ส่วนฐานมีไม้ไว้ในครอบครองนั้นเป็นความผิดที่เกิดขึ้นหลังการตัดฟัน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่าจำเลยได้มีไม้"ที่จำเลยได้ตัดฟันไว้แล้ว" ไว้ในครอบครอง แม้ฟ้องจะมีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาเพียงวันเดือนปีและเวลากลางวันแต่ก็เป็นไปได้ที่จำเลยได้ตัดฟันไม้ไว้แล้วกรรมหนึ่ง ต่อแต่นั้นก็มีไม้ไว้ในครอบครองอีกกรรมหนึ่ง แม้สืบเนื่องต่อกันไป ก็ยังเป็นการต่างกรรมต่างวาระและอยู่ในระหว่างเวลากลางวันด้วยกันได้ แม้คำฟ้องจะไม่ชัดเจนว่าตัดฟันไม้ที่ยืนต้นอยู่ เมื่อขาดจากต้นแล้วจึงมีไม้นั้นไว้ในครอบครองต่อไปก็ตาม แต่ก็แสดงอยู่ในตัวเองว่า การตัดฟันไม้นั้นได้สำเร็จไปก่อนการมีไม้นั้นไว้ในครอบครอง และการจะมีไม้ไว้ในครอบครองได้ในกรณีเช่นนี้ ก็จะต้องเป็นไม้ที่ถูกตัดฟันขาดจากต้นแล้ว
พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ที่ได้แก้ไขแล้ว ฐานตัดฟันทำไม้มาตรา 72 ให้ปรับ 250 บาท ฐานมีไม้ไว้ในครอบครองตามมาตรา 69 ให้ปรับ 250 บาท รวม 500 บาทลดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงปรับ 250 บาท นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลล่าง
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา







