ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดที่ประเทศมาเลเซีย โจทก์เปิดดำเนินกิจการสาขาอยู่ในประเทศไทยด้วยนายลิม เซ็ง ไลผู้จัดการสาขาในประเทศไทยเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีฟ้องร้องในนามโจทก์ได้ตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจพร้อมคำแปลท้ายฟ้อง โจทก์ได้ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้หนี้เบิกเงินเกินบัญชีเป็นเงิน 179,407.47 บาทพร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยทั้งสองยอมชำระเงินแก่โจทก์ 149,461.91 บาท ภายใน 3 เดือนนับแต่วันทำยอม จำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ ศาลแพ่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์จำเลยทั้งสองปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดส่วนจำเลยที่ 2 ยึดได้จักรยานยนต์เพียงคันเดียวราคา 3,000 บาท จำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย

ในชั้นแรกจำเลยที่ 1 มิได้ให้การ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว แล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาด จำเลยที่ 1 ขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่เฉพาะจำเลยที่ 1

จำเลยที่ 1 ให้การว่านายลิม เซ็ง ไล มิได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีในนามโจทก์ลายมือชื่อในเอกสารท้ายฟ้องปลอม จำนวนหนี้ตามฟ้องไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และได้คิดดอกเบี้ยทบต้นเข้าด้วย จำเลยมีทรัพย์สินและกิจการค้ามีทางชำระหนี้ให้โจทก์ได้ มิใช่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาด

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายลิม เซ็ง ไลผู้จัดการสาขาโจทก์ในประเทศไทยฟ้องให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดแล้ว

ในปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่มอบอำนาจให้นายลิม เซ็ง ไล ฟ้องคดีนี้ปิดอากรแสตมป์ในฉบับภาษาอังกฤษ กฎหมายให้รับฟังตราสารที่เป็นภาษาไทย ไม่ให้รับฟังตราสารที่เป็นภาษาต่างประเทศ หนังสือมอบอำนาจฉบับภาษาไทยไม่ได้ปิดอากรแสตมป์จึงรับฟังเป็นพยานในคดีนี้ไม่ได้นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าปรากฏตามคำฟ้องและคำให้การของจำเลยที่ 1 กับคำเบิกความของนายชาญวุฒิพยานโจทก์ว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่มอบอำนาจให้นายลิม เซ็ง ไลฟ้องคดีนี้เป็นภาษาต่างประเทศปิดอากรแสตมป์แล้วตามเอกสารท้ายฟ้อง และมีคำแปลหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวเป็นภาษาไทยตามคำแปลท้ายฟ้อง เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้นำสืบหักล้างคำแปลงภาษาไทยว่าไม่ถูกต้องกับต้นฉบับภาษาต่างประเทศอย่างไร จึงถือได้ว่าคำแปลนั้นถูกต้อง และทั้งต้นฉบับภาษาต่างประเทศพร้อมคำแปลดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทำขึ้นและส่งต่อศาลชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 46 แล้วถึงแม้จะปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับภาษาต่างประเทศเท่านั้นก็เป็นการปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ที่ต้นฉบับของตราสารชอบด้วยมาตรา 118แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th