สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2522

พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ.2489 ม. 9

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากรบรรยายฟ้องด้วยว่าคดีมีผู้แจ้งความนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลย และขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า พนักงานอัยการโจทก์ได้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายเงินสินบนแทนผู้นำจับตามบทบัญญัติในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 แล้ว และเมื่อคดีดังกล่าวศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่มีผู้นำจับโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้าน และต่อมาศาลฎีกาพิพากษายืน คดีจึงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่าไม่มีผู้นำจับ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินนำจับแก่ผู้ร้อง อันเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วได้อีก

เนื้อหาฉบับเต็ม

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร ให้ปรับจำเลยและให้จ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุม หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า คดีนี้ผู้ร้องเป็นผู้แจ้งความนำจับจำเลย ขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้ร้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าคดีนี้ไม่มีผู้นำจับ ผู้ร้องจะยื่นคำร้องให้ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 9 บัญญัติว่า "ในการยื่นฟ้องผู้กระทำผิดซึ่งผู้นำจับหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิจะได้รับเงินสินบนหรือรางวัลตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้จ่ายสินบนหรือรางวัล" คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากรได้บรรยายมาในฟ้องด้วยว่าคดีมีผู้แจ้งความนำจับเจ้าพนักงานจับจำเลยและขอให้ศาลสั่งจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย กรณีถือได้ว่าพนักงานอัยการโจทก์ได้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายเงินสินบนแทนผู้นำจับตามบทบัญญัติ มาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว ซึ่งในการพิจารณาพิพากษาคดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยด้วยว่า คดีมีผู้นำจับที่มีสิทธิได้รับเงินสินบนนำจับตามกฎหมายหรือไม่ และปัญหาข้อนี้ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าคดีนี้ไม่มีผู้นำจับ และให้จ่ายเฉพาะเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ผู้จับกุม โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คงมีแต่จำเลยฝ่ายเดียวฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้ยกคำขอเกี่ยวกับเงินรางวัลของผู้จับกุม และต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉะนั้น ปัญหาข้อที่ว่าคดีมีผู้นำจับหรือไม่ จึงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่มีผู้นำจับ ดังนี้ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้ร้องโดยอ้างว่าเป็นผู้นำจับ อันเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วได้อีก ฎีกาข้ออื่นของผู้ร้องไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการกรมอัยการ ผู้ร้อง - นายสละ ชิตชอบ จำเลย - บริษัทอุตสาหกรรมกระดาษไทย จำกัด

ชื่อองค์คณะ ภิญโญ ธีรนิติ วิถี ปานะบุตร ภักดิ์ บุณย์ภักดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE