ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 17140 และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวและเรียกค่าเสียหายเดือนละ 50,000 บาท จำเลยให้การว่า ไม่ได้เช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์แต่ได้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากโจทก์กับจำเลยเป็นหุ้นส่วนกันในห้างหุ้นส่วนจำกัดลี่ข่วนหลี ต่อมาได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ตกลงจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 17140 พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลยในราคา 3,500,000 บาท และจำเลยจะต้องรับโอนที่ดินและชำระราคาให้โจทก์ภายในวันที่ 3 กรกฎาคม 2533 หากครบกำหนดจำเลยไม่รับโอนและชำระราคา จำเลยยอมออกจากที่พิพาทและยอมให้โจทก์เรียกค่าเสียหาย ทั้งยังมีข้อตกลงให้โจทก์และจำเลยรับผิดในหนี้ร่วมกันของห้างหุ้นส่วนจำกัดลี่ข่วนหลีต่อบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด คนละครึ่ง แต่ทั้งนี้โจทก์รับผิดร่วมไม่เกินวงเงิน 1,550,000 บาท หากจำเลยใช้หนี้แล้วโจทก์ไม่ยอมรับผิดในหนี้ให้จำเลยดำเนินการบังคับคดีได้ทันทีศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอม ต่อมาจำเลยยื่นคำขอให้ออกหมายบังคับคดีแก่โจทก์ จำเลยได้ชำระหนี้ค่าอาหารสัตว์ให้แก่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ไปแล้วแต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งออกหมายบังคับคดี

โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่เคยปฏิบัติผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่เคยชำระหนี้ให้แก่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรมจำกัด ขอให้ยกคำร้องของจำเลยและเพิกถอนหมายบังคับคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ ให้บังคับคดีเอาแก่โจทก์เพื่อให้ชำระเงินจำนวน 1,000,000 บาท แก่จำเลย พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

โจทก์ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาโจทก์มีเพียงว่า โจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ ปัญหานี้ปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 3 มีใจความว่า จำเลยและหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดลี่ข่วนหลีเป็นหนี้ค่าอาหารสัตว์กับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด โจทก์ขอรับผิดชดใช้หนี้ร่วมกับจำเลยครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ไม่เกินวงเงิน 1,550,000 บาท หากบริษัทบังคับให้จำเลยชำระหนี้แล้ว โจทก์ไม่ยอมรับผิด หนี้ดังกล่าวก็ยอมให้จำเลยบังคับคดีได้ทันที เห็นว่า แม้สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความกล่าวเฉพาะหนี้ค่าอาหารสัตว์ของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด โดยไม่ได้ระบุถึงหนี้ค่าอาหารสัตว์ของบริษัทกรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัด ก็ตามแต่จำเลยนำสืบได้ความว่า บริษัทกรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัดเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัดค้าขายสินค้าประเภทเดียวกัน มีที่อยู่ที่เดียวกันบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด มีกรรมการบริหารชุดเดียวกันทั้งตามใบกำกับสินค้าเอกสารหมาย ล.8 แต่ละฉบับก็เป็นแบบพิมพ์เหมือนกันซึ่งมีทั้งออกในนามทั้งสองบริษัท แต่มีระบุว่าให้สั่งจ่ายเงินค่าสินค้าในนามบริษัทกรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัด เท่านั้นหนี้สินตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ระบุว่าเป็นหนี้บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ก็คือหนี้รายเดียวกันกับที่จำเลยชำระให้บริษัทกรุงเทพฯ อาหารสัตว์ จำกัด นั่นเองเมื่อจำเลยชำระหนี้รายดังกล่าวแล้วจำนวน 2,000,000 บาทโจทก์ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยครึ่งหนึ่งตามข้อประนีประนอมยอมความข้อ 3 การที่จำเลยได้ทวงถามโจทก์แล้ว โจทก์เพิกเฉย โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดนัด ผิดข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลได้พิพากษาคดีตามยอมแล้ว จำเลยชอบจะใช้สิทธิบังคับคดีแก่โจทก์ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th