ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 180, 246, 267

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน.

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 อนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่สมควรต้องวินิจฉัยเสียก่อนว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัด จำเลยที่ 1 จึงเป็นพระภิกษุซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์ ถือเป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญาตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 45 ส่วนจำเลยที่ 2 โจทก์บรรยายฟ้องว่า มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพร ซึ่งตามคำสั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาที่ 391/2561 เรื่อง ย้ายข้าราชการ และบัญชีรายละเอียดการย้ายข้าราชการแนบท้ายคำสั่งดังกล่าว ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพร และได้รับเงินเดือนตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน พ.ศ.2551 จำเลยที่ 2 จึงเป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐตามความหมายเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 จำเลยทั้งสองจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 3 เมื่อโจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีและขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 ประกอบมาตรา 83 จึงเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 3 และมาตรา 7 เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเปิดทำการแล้ว พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 10 ห้ามมิให้ศาลชั้นต้นอื่นรับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไว้พิจารณาพิพากษา ประกอบกับพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน ที่ตั้ง เขตศาล และวันเปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค พ.ศ.2560 มาตรา 3 บัญญัติว่า ให้มีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค จำนวน 9 ศาล…(8) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีเขตศาลใน…จังหวัดชุมพร…และมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว บัญญัติให้เปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2560 เป็นต้นไป การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 อันเป็นวันภายหลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 เปิดทำการแล้ว ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์และฎีกาอ้างว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) เพียงแต่ระบุเลขมาตราผิด โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ เห็นว่า ความผิดดังกล่าวก็ยังเป็นคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 3 เช่นกัน เมื่อศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจพิจารณาคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงชอบที่จะยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ของโจทก์เสีย และโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฎีกา ดังนั้น แม้ศาลชั้นต้นรับฎีกาของโจทก์มา ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

พิพากษายกฎีกาของโจทก์ ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1046/2564

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th