คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2523
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132
ศาลอุทธรณ์พิพากษาตั้งผู้คัดค้านที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ด้วย ผู้ร้องฎีกา ระหว่างฎีกาผู้ร้องตายไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป จึงจำหน่ายคดีผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 กับมารดาผู้คัดค้านที่ 2เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ตั้งผู้คัดค้านที่ 3เป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วย ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาทนายผู้ร้องและทนายผู้คัดค้านที่ 3 ยื่นคำแถลงและคำร้องตามลำดับว่านางภักดีดำรงฤทธิ์ผู้ร้องถึงแก่กรรม
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าตามคำแถลงของทนายผู้ร้องของทนายผู้คัดค้านที่ 3 ประกอบภาพถ่ายมรณบัตร ซึ่งนายทะเบียนท้องถิ่นเขตพญาไทออกให้ท้ายคำร้องฟังได้ว่า ผู้ร้องถึงแก่กรรมเมื่อ 19 ธันวาคม 2522 ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาจริง คดีนี้ผู้ร้องเป็นฝ่ายฎีกาขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว แต่การเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมลงแล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องต่อไป ฉะนั้นให้จำหน่ายคดีผู้ร้องออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้ผู้ร้อง ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ"
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - นางภักดีดำรงฤทธิ์ (วอ ภักดีดำรงฤทธิ์ ผู้คัดค้าน - นางสาวจารุวรรณ ภักดีดำรงฤทธิ์ กับพวก
ชื่อองค์คณะ วิถี ปานะบุตร อำนัคฆ์ คล้ายสังข์ ไพบูลย์ เพียรรู้จบ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan