ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองกำแพงคอนกรีตเสาตอม่อและราวเหล็กที่กิโลเมตร 19 + 285 บนทางหลวงหมายเลข 31 วิภาวดีรังสิตซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2ให้เป็นผู้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน สห.03947 ของจำเลยที่ 2 เพื่อธุรกิจของจำเลยทั้งสอง จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันดังกล่าวของจำเลยที่ 2 ในวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ได้ขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่ 2จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทางดอนเมืองบนถนนหลวงหมายเลข 31 มาถึงที่เกิดเหตุด้วยความประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์เสียหลักพุ่งเข้าชนกำแพงคอนกรีต ราวแป๊ปเหล็กและเสาตอม่อสพานของโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน6,700 บาท โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันและแทนกันชดใช้เงินจำนวน 6,700 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 3 ให้การและแก้ไขคำให้การว่า ตามข้อสัญญาประกันภัย จำเลยที่ 2มีหน้าที่นำหลักฐานมาแสดงต่อจำเลยเพื่อพิสูจน์ว่าคนขับรถยนต์ในขณะเกิดเหตุได้รับอนุญาตขับรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยที่ 3 จึงจะรับผิดตามสัญญาประกันภัย แต่จำเลยที่ 2 ไม่เคยนำหลักฐานดังกล่าวมาแสดง กลับกล่าวอ้างและนำหลักฐานแสดงว่าบุคคลผู้มีชื่ออื่นเป็นผู้ขับขี่ และมีใบอนุญาตขับรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1มิได้ประมาทแต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ค่าเสียหายไม่เกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทชนทรัพย์สินของโจทก์เสียหายเป็นเงิน 6,700 บาท จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยทั้งสองด้วย จะยกเอาเงื่อนไขในสัญญาประกันภัยมาต่อสู้บุคคลภายนอกเพื่อยกเว้นความรับผิดหาได้ไม่พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงิน 6,7000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จและร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ 400 บาท จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 3 ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์200 บาท จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าจำเลยที่ 3 จะยกเอาเงื่อนไขตามสัญญาประกันภัยที่กำหนดให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ก็ต่อเมื่อจำเลยที่ 2 ได้นำหลักฐานมาแสดงแก่จำเลยที่ 3 ว่าขณะเกิดเหตุคนขับรถยนต์ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายมาต่อสู้กับโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้หรือไม่ เห็นว่าเงื่อนไขที่จำเลยที่ 3 ยกขึ้นต่อสู้นั้น ตามสัญญามิได้ระบุชัดแจ้งว่าให้จำเลยที่ 3หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญา ดังนั้นหากจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยจะปฏิบัติผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างไรหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 3ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยจะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นคู่สัญญาแต่จะยกเหตุแห่งความผิดเงื่อนไขดังกล่าวมาอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีสิทธิได้รับประโยชน์ตามสัญญาระหว่างจำเลยที่ 2และที่ 3 หาได้ไม่ จำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดตามสัญญา พิพากษายืน โจทก์มิได้แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความให้

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา ADMIN

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th