ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ซื้อที่ดินปลูกบ้านแล้วครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา ราว พ.ศ. 2513 จำเลยได้เข้าปลูกเรือนในที่ดินดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนออกไป จำเลยรับว่าจะออกไปแล้วไม่ยอมรื้อถอนออกไป กลับอ้างว่านายเอิบ บัวงามให้จำเลยปลูกอยู่ ขอให้ขับไล่จำเลยและรื้อถอนบ้านเรือนออกไป

จำเลยให้การว่า ที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านเป็นของนายเอิบ นางไข่ บัวงามเป็นที่ดินส่วนที่เหลือจากขายให้นางสุปราณี สุทัศน์ ณ อยุธยา ซึ่งได้ยื่นคำขอรังวัดเพื่อออกโฉนดไปแล้ว ที่ดินส่วนที่เหลือนี้มีลำห้วยสาธารณะคั่นไว้ จึงได้ชื่อว่าเป็นที่ดินว่างเปล่า เทศบาลหัวหินห้ามไว้ไม่ยอมให้ผู้ใดครอบครอง นายอำเภอหัวหินให้ทำแผนที่ไว้ว่าเป็นที่ดินว่างเปล่า นายฉลวย ธูปหอมเจ้าของที่ดินเดิมไม่มีสิทธิครอบครอง โจทก์ไม่ได้ซื้อที่ดินและรับโอนโดยสุจริต นายเอิบ บัวงามให้จำเลยปลูกบ้านอาศัยตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ขอให้ยกฟ้อง

วันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์มาฟ้องเรียกคืนการครอบครองหลังจากจำเลยแย่งการครอบครองมา 1 ปีแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375 ซึ่งเป็นเรื่องอำนาจฟ้องศาลเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามฟ้องและคำให้การคงมีประเด็นว่าที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนอยู่เป็นที่ดินของโจทก์หรือไม่ จำเลยไม่ได้โต้เถียงกรรมสิทธิ์เพียงแต่อ้างว่าเป็นที่ดินของคนอื่น จึงนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375 เรื่องแย่งการครอบครองมาใช้บังคับไม่ได้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินซึ่งโจทก์มีสิทธิครอบครอง โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยรื้อเรือนออกไป จำเลยรับว่าจะรื้อเรือนออกไปภายในเดือนมกราคม 2516 ครบกำหนดแล้ว จำเลยไม่ยอมรื้อเรือนออกไปกลับอ้างว่านายเอิบ บัวงาม เจ้าของที่ดินอนุญาตให้จำเลยปลูกเรือนอยู่ ส่วนจำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนเป็นของนายเอิบ นางไข่ บัวงาม หรือเป็นที่ดินของทางราชการหวงห้ามไว้ให้เป็นที่ว่างเปล่า และโจทก์ไม่ได้ซื้อกับรับโอนการครอบครองที่ดินมาโดยสุจริต ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำให้การของจำเลยไม่อาจมีเรื่องจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนอยู่จากโจทก์ จึงไม่มีทางที่จะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ได้ศาลก็ไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นการวินิจฉัยขัดแย้งกับประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ในคำให้การ และไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองไม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th