ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับอนุญาตให้ตั้งสถานีบ่มใบยา โรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยาเพาะปลูกต้นยาสูบ ซื้อและขายใบยาจากโรงงานยาสูบ กรมสรรพสามิต ในเขตหลายท้องที่ ซึ่งโจทก์มีสิทธิดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวแต่ผู้เดียวตลอดมา ต่อมาจำเลยได้สร้างสถานีบ่มใบยา โรงบ่มใบยา บ่มใบยา เพาะปลูกต้นยาสูบ ซื้อขายใบยาโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตพื้นที่บางส่วนที่โจทก์ได้รับอนุญาตแต่ผู้เดียว จำเลยถูกจับกุมลงโทษ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์เสียหายคือจำเลยเพาะต้นกล้ายาสูบแจกผู้มีชื่อให้เพาะปลูกแล้วรับซื้อใบยาสดจากผู้ที่เคยเพาะปลูกและต้องนำมาขายโจทก์ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 220,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย และให้จำเลยเลิกกิจการในเขตพื้นที่ที่โจทก์ได้รับอนุญาต

จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ และว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของหรือมีสิทธิเหนือที่ดินอันเป็นเขตเพาะปลูกต้นยาสูบ การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์อันจะทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องคดี โจทก์จำเลยต่างแข่งขันกันดำเนินการค้า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ และให้จำเลยเลิกกิจการ ตามที่โจทก์ฟ้องในเขตพื้นที่พิพาทที่โจทก์ได้รับอนุญาต

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยอ้างมูลละเมิดเนื่องมาจากโจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิตให้ตั้งสถานีบ่มใบยา สร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยา เพาะปลูกต้นยาสูบ ซื้อและขายใบยา ในท้องที่ต่าง ๆ โจทก์จึงเป็นผู้มีสิทธิดำเนินการในเขตพื้นที่ดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว จำเลยได้ดำเนินกิจการอย่างเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาตทับลงบนบางท้องที่ซึ่งโจทก์ได้รับอนุญาตไว้ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 การกระทำของจำเลยที่จำต้องได้รบัอนุญาตก่อนดำเนินการตามที่โจทก์ฟ้อง คือการตั้งสถานีบ่มใบยา สร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยา เพาะปลูกต้นยาสูบ กิจการดังกล่าวนี้ มิได้มีลักษณะเป็นการผูกขาดดังที่โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าโจทก์ได้รับอนุญาตให้ทำได้แต่เพียงผู้เดียวกิจการผูกขาดตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มีชนิดเดียวเท่านั้น คือ การประกอบอุตสาหกรรมบุหรี่ซิกาแรต ซึ่งเป็นการผูกขาดของรัฐ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 16 การกระทำของจำเลยแม้จะยังไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิตก็ไม่เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยคงมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบถือไม่ได้ว่ามีกฎหมายรับรองคุ้มครองสิทธิของโจทก์อันจะก่อให้เกิดมูลละเมิดตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ประเด็นตามฎีกาข้ออื่นจึงไม่จำต้องวินิจฉัย

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลเห็นสมควรให้เป็นพับไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th