ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า อันเป็นกิจการสาธารณูปโภค จำเลยเคยเป็นพนักงานของโจทก์ สังกัดฝ่ายจัดซื้อและพัสดุ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคลังพัสดุธนบุรี มีหน้าที่ควบคุมเก็บรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าและควบคุมดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการจ่ายสิ่งของอุปกรณ์ไฟฟ้าออกจากคลังพัสดุ ระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม ถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2520 คณะกรรมการตรวจนับวัสดุคงคลังได้ตรวจนับวัสดุในคลังพัสดุธนบุรีพบว่า จำเลยเบียดบังอุปกรณ์ไฟฟ้าของโจทก์ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยไป คณะกรรมการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่าจำเลยมิได้กระทำตามระเบียบของโจทก์ เบียดบังเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายครั้งหลายหนรวม 9 รายการเป็นเงินทั้งสิ้น 461,442.09 บาท หักรายการที่ 5 ซึ่งพนักงานอัยการ ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา คงเหลือราคาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเลยเบียดบังไปอีก 8 รายการเป็นเงิน 190,562.09 บาท เป็นเหตุให้โจทก์เสียหายซึ่งจำเลยต้องรับผิด นอกจากนี้จำเลยยังค้างชำระค่าวัสดุขาดหายเมื่อปี พ.ศ. 2515 เป็นเงิน 33,162.04 บาท ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยผ่อนชำระบางส่วนแล้วผิดนัด คงค้างชำระหนี้ส่วนนี้เป็นเงิน 28,440.04 บาทและจำเลยเป็นหนี้ค่าน้ำมันเบนซินซึ่งเบิกไปใช้แล้วไม่ชำระเป็นเงิน 221,650 บาท โจทก์เรียกจำเลยคืนทรัพย์สินหรือชดใช้ราคารวมทั้งสิ้น221,223.78 บาท จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้วัสดุหรือราคาวัสดุอันเนื่องมาจากการทุจริตต่อหน้าที่ของจำเลย ซึ่งเป็นการทำละเมิด ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ และสำหรับค่าน้ำมันเบนซินที่โจทก์ให้จำเลยชำระก็ขาดอายุความด้วย จำเลยไม่ได้เบียดบังยักยอกเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าของโจทก์ไป เมื่อหักรายการที่ 5 ออกแล้ว ราคาที่จำเลยจะต้องชดใช้เพียง 39,517.23 บาทเท่านั้น จำเลยไม่เคยค้างชำระค่าวัสดุขาดหายและไม่เคยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับความเสียหายจำนวนแรกที่โจทก์ขอให้จำเลยคืนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเลยเบียดบังไปหรือชดใช้ราคา 192,562.09 บาทนั้น เห็นว่าวัสดุที่ขาดบัญชีอยู่ในครอบครองและรับผิดชอบของจำเลย หากจำเลยยักย้ายเอาทรัพย์สินดังกล่าวของโจทก์ไป โจทก์ย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336การที่โจทก์ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ไม่ใช่เรื่องละเมิด จึงไม่มีอายุความในการฟ้องคดี

สำหรับความเสียหายจำนวนที่สองที่โจทก์ขอให้จำเลยชดใช้ค่าวัสดุที่ขาดหายเมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความขอผ่อนชำระและยังค้างชำระอยู่อีก 28,441.04 บาท เห็นว่า ความเสียหายดังกล่าวเกิดแต่มูลละเมิด โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วต้องฟ้องร้องภายในหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคแรก การที่รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงทำบันทึกให้จำเลยกับนายเฉลิมศักดิ์ร่วมกันชดใช้ราคาของที่หายและจำเลยเซ็นชื่อรับทราบคำสั่งในบันทึกดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าจำเลยยอมรับผิดตามบันทึกเพราะจำเลยเพียงแต่เซ็นชื่อรับทราบคำสั่งของรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้น โจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีให้จำเลยรับผิดตามบันทึกดังกล่าวไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์เกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวตั้งหลักฐานขึ้นโดยประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องภายในสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 การที่จำเลยผ่อนชำระเงินให้โจทก์เป็นการรับสภาพต่อเจ้าหนี้ด้วยใช้เงินบางส่วน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง จำเลยผ่อนชำระเงินครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2521 แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่29 กันยายน 2524 ซึ่งเกินหนึ่งปีนับแต่วันที่จำเลยผ่อนชำระครั้งสุดท้าย สิทธิเรียกร้องของโจทก์สำหรับความเสียหายจำนวนนี้จึงขาดอายุความ

โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า มิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าน้ำมันเบนซิน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในการที่จะเรียกเอาค่าน้ำมันเบนซินที่ค้างชำระจากจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ฟ้องโจทก์สำหรับความเสียหายจำนวนนี้ไม่ขาดอายุความ

พิพากษาแก้ เป็นว่าฟ้องโจทก์ที่ขอให้จำเลยใช้ค่าวัสดุขาดหายเมื่อปี พ.ศ. 2515จำนวน 28,4410.04 บาท ขาดอายุความ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th