ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อบ้านเลขที่ 161/2ถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสอง ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ทั้งสองอีกต่อไป คดีถึงที่สุด

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว มิใช่บริวารของจำเลยและโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ร้องให้ออกจากบ้านและที่ดินพิพาทเป็นอีกคดีหนึ่งแล้ว ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการรื้อบ้านดังกล่าวจนกว่าคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ร้องจะถึงที่สุด

ศาลชั้นต้นสั่งว่า ตามคำร้องกรณีไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292, 293 ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้รับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษายืน

โจทก์ไม่ยื่นคำคัดค้าน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องนำสืบฟังไม่ได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 161/2 มิใช่บริวารของจำเลยพิพากษายกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว คดีนี้สืบเนื่องจากคดีเดิมที่โจทก์ทั้งสองฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านพิพาทออกจากที่ดินของโจทก์ เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนโกสีย์ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ที่ดินของโจทก์นี้เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับที่ดินบริเวณใกล้เคียงกันคือที่ดินที่โจทก์ให้นางจำรัส ศรีรัตนาภิรมย์ และผู้ร้องเช่าปลูกบ้าน 2 หลัง ค่าเช่ารวมกันเพียงปีละ 500 บาทแล้ว ย่อมเห็นได้ว่า ขณะยื่นฟ้องที่ดินของโจทก์อาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ5,000 บาท ในคดีเดิมจำเลยไม่ได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ คู่ความจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น สำหรับคดีนี้เป็นเรื่องชั้นบังคับคดีซึ่งมีประเด็นว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า ผู้ร้องมิใช่บริวาร (ที่ถูกน่าจะเป็นบริวาร) ของจำเลย พิพากษายกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการบังคับบริวารของจำเลยที่ถูกฟ้องขับไล่ให้ออกไปจากที่ดินของโจทก์ดังนั้น เมื่อคู่ความในคดีเดิมต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วผู้ร้องจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงด้วย ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสาม ฎีกาของผู้ร้องที่ว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลย เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย"

พิพากษายกฎีกาของผู้ร้อง.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th