ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยข่มขืนใจนายมงคล พร้อมมูล ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ทำการตรวจยึดไม้สักแปรรูปที่ผู้กระทำผิดทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุ โดยพูดกับผู้เสียหายว่า "แก่แล้วให้ไปอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านเสียอย่างนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าไม่ปล่อยไม้ให้ระวังตัวเดี๋ยวจะโดนฆ่าให้ตาย" ซึ่งเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายหากไม่ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 และนับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 822/2535 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 771/2535 ของศาลชั้นต้น

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 139 ลงโทษจำคุก 1 ปี คดีที่ขอให้นับโทษต่ออยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนอีกคดีหนึ่งศาลรอการลงโทษไว้จึงให้ยกคำขอในส่วนนี้จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 ประกอบมาตรา 80 ให้จำคุก 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 จำคุก 1 ปีศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 ประกอบมาตรา 80 จำคุก 8 เดือนเป็นการแก้ทั้งบทกฎหมายและกำหนดโทษที่ลงโทษจำเลย เป็นการแก้ไขมากแต่ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จำเลยคงฎีกาได้เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 222 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้พูดกับผู้เสียหายว่า "หัวหน้ามงคลอายุมากแล้วน่าจะอยู่กับลูกเมีย หากไม่ให้ก็อยู่กันไม่ได้" และ "หากไม่ให้จะโดนฆ่า"ฟังได้ว่าจำเลยได้พูดจาข่มขู่ ผู้เสียหายให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายในภายหลังแล้วปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยมีว่าการที่จำเลยพูดกับผู้เสียหายดังกล่าวแต่ผู้เสียหายไม่เกรงกลัวการกระทำของจำเลยเป็นเรื่องไม่แน่นอนว่าจะเกิดอันตรายหรือไม่ ไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 นั้น เห็นว่า การที่จำเลยพูดขู่เข็ญจะฆ่าผู้เสียหายหากไม่ปล่อยไม้ที่ยึดเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่เป็นการลงมือกระทำความผิดครบองค์ประกอบความผิดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เพราะผู้เสียหายไม่เกรงกลัวไม่ยินยอมปล่อยไม้ที่ยึด ผู้เสียหายจึงไม่ได้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยกฎหมายหรือละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามที่จำเลยข่มขืนใจ จำเลยจึงมีความผิดขั้นพยายาม"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th