ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงิน 40,750 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าฟ้องของโจทก์ซึ่งเรียงโดยนายสุรยุทธ โคตระวีระผู้รับมอบอำนาจเป็นฟ้องที่สมบูรณ์หรือไม่ จำเลยเป็นหนี้กองมรดกของนายเก่งหยวยหรือกิตติศักดิ์หรือไม่

สำหรับปัญหาที่ว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์หรือไม่นั้น จำเลยฎีกาว่านายสุรยุทธไม่มีอำนาจเรียงฟ้องเพราะมิใช่ทนายความ พิเคราะห์แล้วปรากฏในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี (เอกสารท้ายฟ้องหมาย 1) ว่าโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายเก่งหยวยหรือกิตติศักดิ์ แซ่โค้วหรือศรีสถาพรมอบอำนาจให้นายสุรยุทธ โคตระวีระ ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาเรื่องผิดสัญญากู้ยืม ทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ ทั้งในศาลและนอกศาล ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฯลฯ เห็นได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้นายสุรยุทธเป็นตัวแทนของโจทก์ในการดำเนินคดีนี้แก่จำเลย นายสุรยุทธจึงมีฐานะเป็นคู่ความในคดีนี้ในนามของโจทก์ ย่อมมีอำนาจตามกฎหมายที่จะเรียงฟ้องและดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับคดีนี้แทนโจทก์ในนามของโจทก์ได้ หาขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 16 ดังที่จำเลยฎีกามาไม่"

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา