ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสามสำนวนนี้ศาลแรงงานกลางรวมการพิจารณาพิพากษาโดยให้เรียกโจทก์เป็นโจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ตามลำดับ

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิด และไม่จ่ายเงินบำเหน็จตามข้อบังคับองค์การเหมืองแร่ฯแก่โจทก์ตามสิทธิ โดยได้จ่ายบำเหน็จแก่โจทก์ทั้งสามขาดไปคนละ 56,400 บาท21,600 บาท และ 27,900 บาท ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินบำเหน็จดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า เดิมโจทก์ทั้งสามเป็นลูกจ้างอัตราชั่วคราว ทำงานกับจำเลยเป็นครั้งคราว หากไม่มาทำงานก็จะไม่ได้ค่าจ้าง ไม่มีสิทธิได้รับสวัสดิการบางอย่างจากจำเลย ไม่มีสิทธิได้รับการปรับค่าจ้างทุกปีเช่นลูกจ้างประจำ ต่อมาโจทก์ทั้งสามได้รับการปรับจากลูกจ้างอัตราชั่วคราวเป็นลูกจ้างประจำ เวลาปฏิบัติงานของโจทก์ทั้งสามจึงน้อยกว่าที่โจทก์อ้างในฟ้อง และโจทก์ทั้งสามได้รับบำเหน็จไปครบถ้วนแล้ว ทั้งยังได้แสดงเจตนาในขณะรับเงินบำเหน็จว่าไม่ติดใจเรียกร้องสิทธิและประโยชน์อื่นใดจากจำเลยอีก ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดพิจารณาคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันบางประการ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้งดสืบพยาน

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งสามเป็นลูกจ้างประจำตั้งแต่วันเริ่มทำงาน มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามระยะเวลาตั้งแต่วันเริ่มทำงานจำเลยจ่ายบำเหน็จแก่โจทก์ทั้งสามขาดไปตามจำนวนที่ฟ้อง พิพากษาให้จำเลยจ่ายบำเหน็จดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสาม

จำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยอุทธรณ์ว่าการที่โจทก์ทั้งสามทำข้อตกลงกับจำเลยว่าได้รับเงินบำเหน็จตามจำนวนในคำให้การไปแล้ว ไม่ติดใจเรียกร้องเงิน สิทธิและประโยชน์อื่นใดจากจำเลยอีกทั้งสิ้นนั้นเป็นการระงับสิทธิของโจทก์ทั้งสามแล้ว ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใด โจทก์ทั้งสามหามีสิทธิเรียกร้องเงินบำเหน็จจากจำเลยอีกไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า เงินบำเหน็จเป็นเงินที่นายจ้างตอบแทนคุณความดีของลูกจ้างที่ได้ทำงานร่วมกับนายจ้างด้วยดีตลอดมาเงินประเภทนี้กฎหมายมิได้บังคับให้นายจ้างว่าจะต้องจ่ายแก่ลูกจ้าง นายจ้างจะให้แก่ลูกจ้างหรือไม่ จะให้ด้วยหลักเกณฑ์อย่างใดสุดแต่นายจ้างจะเห็นสมควร เป็นเรื่องระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง หาเกี่ยวกับประชาชนทั่วไปไม่ข้อพิพาทเกี่ยวด้วยเงินบำเหน็จจึงมิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เอกสารหมายเลข 12 หมายเลข 13 และหมายเลข 14 เป็นแบบพิมพ์ดีดที่จำเลยจัดทำขึ้น ระบุเงินต่าง ๆ ตามสิทธิและตามกฎหมายที่ลูกจ้างจะพึงได้รับจากจำเลย และมีรายการกรอกข้อความว่าได้รับเงิน (ค่าชดเชย, บำเหน็จ) ไปแล้วเป็นจำนวนเท่าใด ความในวรรคถัดไปมีว่า "เมื่อข้าพเจ้าได้รับเงินจำนวนดังกล่าวข้างต้นถูกต้องครบถ้วนแล้ว ข้าพเจ้าไม่ติดใจที่จะเรียกร้องเงิน สิทธิ และประโยชน์อื่นใดจากองค์การเหมืองแร่ และ/หรือผู้แทนขององค์การเหมืองแร่อีกทั้งสิ้น ฯลฯ" ดังนี้ย่อมหมายความว่าโจทก์ได้สละสิทธิที่จะเรียกร้องเงินบำเหน็จของตนนอกเหนือจากจำนวนที่ปรากฏในเอกสารนั้นแล้ว โจทก์ทั้งสามย่อมถูกผูกพันตามเนื้อความนั้น หามีสิทธิจะเรียกเงินบำเหน็จส่วนที่ขาดจำนวนอีกไม่

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสามสำนวน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th