ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวและที่ดินจากโจทก์ จำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจากสถานที่เช่า ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 นั้น ปรากฏจากหลักฐานในสำนวนว่า หลังจากศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ซึ่งนำสืบก่อนเสร็จแล้ว ให้นัดสืบพยานจำเลย เมื่อถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานบุคคลและพยานเอกสารเพิ่มเติมโดยอ้างเหตุว่า พยานตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นไว้แล้วยังไม่ถ้วนดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ศาลฎีกาเห็นว่า การขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยเป็นกรณีตามมาตรา 88 วรรคสาม ต้องมีเหตุสมควรแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่าตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อ

ประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ คำขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเจตนาตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว

ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปถึงตัวจำเลยเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บทกฎหมายที่จำเลยอ้างเป็นเรื่องวิธีการส่งประเด็นไม่สืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความว่า เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยเดินทางไปต่างประเทศยังไม่กลับ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่าในวันนัดคราวหน้า ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดจำเลยจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยกำชับว่านัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัด ทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ส่งประเด็นไปสืบ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดีสั่งงดสืบตัวจำเลย ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ดังนั้น ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้ โดยอาศัยมาตรา 46 วรรคสอง คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th