ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุคันหมายเลขทะเบียน 80-6707 อุดรธานี แล่นสวนมาด้วยความประมาทโดยขับด้วยความเร็วสูงจนไม่สามารถบังคับรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถของตนเองได้ รถเสียหลักล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถของรถคันที่โจทก์รับประกันภัยเป็นเหตุให้ชนกับรถคันที่โจทก์รับประกันภัยได้รับความเสียหาย นายอุดมถึงแก่ความตาย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชำระค่าปลงศพนายอุดมเป็นเงิน 50,000 บาทตามหน้าที่ความรับผิดชอบให้แก่ผู้เอาประกันภัย โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิตามกฎหมายในอันที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนถึงวันฟ้องจากจำเลยทั้งสองได้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 52,691 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 50,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า สัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยสูญเสียชีวิตเป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่งเพราะอาศัยความมรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 889 โจทก์ไม่อาจเข้ารับช่วงสิทธิเรียกค่าปลงศพที่จ่ายแก่ผู้เอาประกันภัย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์ได้รับประกันภัยรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุคันหมายเลขทะเบียน ม-3532 ขอนแก่นซึ่งเป็นรถยนต์ของบริษัทสังกะสีไทย จำกัด ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.2 จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของรถยนต์อีซูซุหมายเลขทะเบียน 80-6707 อุดรธานี และเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2535 เวลาประมาณ 7 นาฬิกา รถยนต์ดังกล่าวทั้งสองคันชนกันเป็นเหตุให้นายอุดมหรือศุภสิทธิ์ เชิดสุริยาลูกจ้างของบริษัทสังกะสีไทย จำกัด ผู้เอาประกันภัยถึงแก่ความตายโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชำระค่าสินไหมทดแทนซึ่งเป็นค่าปลงศพนายอุดมหรือศุภสิทธิ์เป็นเงิน 50,000 บาท ให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ เห็นว่า ข้อสัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.2 ในส่วนที่เป็นการประกันอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับการเสี่ยงภัยถึงชีวิตเป็นสัญญาประกันชีวิตอย่างหนึ่งเพราะอาศัยความมรณะของบุคคลเป็นเงื่อนไขแห่งการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 889 หาใช่การประกันวินาศภัยแต่เพียงอย่างเดียวดังที่โจทก์ฎีกาไม่ ซึ่งตามบทบัญญัติว่าด้วยการประกันชีวิตไม่ได้ให้สิทธิแก่ผู้รับประกันภัยที่จะเข้ารับช่วงสิทธิได้อย่างกรณีการประกันวินาศภัย ดังนั้น แม้โจทก์จะได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนจำนวน 50,000 บาท ให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปโจทก์ก็หามีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยทั้งสองได้ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th