ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีสืบเนื่องมาจากระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2529 ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2530ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2530 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยส่งเงินมาตามคำสั่งอายัดชั่วคราว
ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นยื่นคำร้องลงวันที่ 5 เมษายน 2531 ขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการอายัด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยสั่งอายัดเงินของจำเลยไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2529 ต่อมาเมื่อวันที่ 10กุมภาพันธ์ 2530 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2530 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยส่งเงินต่อศาลตามคำสั่งอายัด คำสั่งอายัดเงินชั่วคราวก่อนพิพากษายังคงมีผลต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2)เมื่อโจทก์ได้ขอออกหมายบังคับคดีถึงที่สุดแล้ว จึงมีผลเท่ากับเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์นี้เมื่อวันที่5 เมษายน 2531 จึงเป็นการยื่นหลังจากสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยส่งทรัพย์สินตามที่อายัดไว้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคห้าผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา







