สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3082/2529

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 3082/2529

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 213, 227

พยานโจทก์มีเหตุที่สงสัยไม่น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะเป็นคนร้ายชิงทรัพย์เป็นเหตุในลักษณะคดีแม้จำเลยที่2มิได้อุทธรณ์ฎีกาก็ตามศาลฎีกาก็พิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่2ด้วย.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 339 และ 340 ตรี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคานาฬิกาข้อมือ สร้อยคอทองคำกระเป๋าพร้อมเงินสดให้แก่ผู้เสียหายทั้งสอง จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสองและวรรคสาม ประกอบมาตรา 83 จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 340 ตรีอีกด้วย ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 18 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 12 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 6,650 บาทแก่ผู้เสียหายทั้งสอง จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานโจทก์ยังมีเหตุที่สงสัยไม่น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ผู้เสียหายทั้งสองจริง ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น อนึ่ง ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อไม่น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายแล้ว จึงเป็นเหตุในลักษณะคดีให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่อุทธรณ์ด้วย พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งหมด ปล่อยจำเลยทั้งสอง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา ADMIN

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ ประจำศาล จังหวัด ตะกั่วป่า จำเลย - นาย วิโชค ลิ่มเจริญ กับพวก

ชื่อองค์คณะ สุชาติ จิวะชาติ เสรี แสงศิลป์ อำนวย เปล่งวิทยา

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE