ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนักงานประเมินภาษีเงินได้ของจำเลยได้ประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากโจทก์โดยอ้างว่า โจทก์ไม่สามารถนำบัญชีและเอกสารไปให้ทำการไต่สวนตรวจสอบได้ครบถ้วนตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร จึงประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากโจทก์ในอัตราร้อยละ 2 ของยอดรายรับในปี พ.ศ. 2511 - 2514 ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ตามมาตรา 71(1) โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ โจทก์เห็นว่าการประเมินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานก.ต.ภ. ได้มาตรวจค้นและยึดสมุดบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ไปจากโจทก์ทั้งหมด และต่อมาได้ส่งสมุดบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ที่ยึดไปให้จำเลยทำการตรวจสอบแล้ว หาใช่ว่าโจทก์ไม่นำไปให้เจ้าพนักงานประเมินทำการตรวจสอบไม่ ขอให้เพิกถอนการประเมิน

จำเลยให้การว่า จำเลยประเมินเรียกเก็บภาษีตามฟ้องก็เพราะโจทก์ไม่นำส่งเอกสารให้เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยตรวจสอบตามหมายเรียก เอกสารที่เจ้าหน้าที่ ก.ต.ภ. ยึดมาจากโจทก์แล้วส่งให้จำเลยไม่มีเอกสารแสดงรายจ่ายและเอกสารอื่น ๆ อีกหลายรายการ เจ้าพนักงานประเมินจึงไม่อาจพิสูจน์รายจ่ายของโจทก์ได้ ทั้งโจทก์ได้ยินยอมในการประเมินของเจ้าพนักงานแล้ว การประเมินชอบด้วยกฎหมาย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของโจทก์ตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ต.ภ. ได้ยึดเอาเอกสารต่าง ๆ ดังจำเลยอ้างไปจากโจทก์ทั้งหมด แต่เอกสารได้สูญหายไปในระหว่างการยึดครองของสำนักงาน ก.ต.ภ. ก่อนที่สำนักงาน ก.ต.ภ. จะส่งมาให้จำเลยตรวจสอบ และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่โจทก์ไม่สามารถนำเอกสารแสดงการจ่ายตามหมายเรียกไปมอบให้เจ้าพนักงานประเมินทำการไต่สวนจึงมิใช่เป็นความผิดของโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์จงใจขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่นำเอกสารมาให้เจ้าพนักงานประเมินทำการไต่สวนตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร เจ้าพนักงานประเมินก็ไม่มีอำนาจประเมินตามมาตรา 71(1) ให้โจทก์เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 - 2514 ในอัตราร้อยละ 2 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายการประเมินดังกล่าวจึงเป็นการมิชอบแม้โจทก์จะให้ความยินยอมในการประเมินเช่นว่านั้น ก็หาทำให้การประเมินซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายกลับกลายเป็นการประเมินที่ชอบไปแต่อย่างใดไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th