ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 ลงโทษปรับ 2,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34 บัญญัติว่า "ภายในกำหนดสามเดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามความเป็นจริงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้แก่ (1) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ได้จ่ายไปแล้ว(2) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยังค้างชำระ (3) หลักฐานการจ่ายเงินตาม (1) และหลักฐานการค้างชำระตาม (2) ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับหรือเจ้าหนี้ ฯลฯ" และมาตรา 87 บัญญัติว่า "ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในกำหนดตามมาตรา 34หรือยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จ ต้องระวางโทษ ฯลฯ" ดังนี้ การกระทำซึ่งจะเป็นความผิดตามมาตรา 87 นี้จึงมี 2 อย่าง คือ 1. ไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายภายในกำหนด 2. ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ ในเบื้องแรกจึงต้องพิจารณาก่อนว่าคดีนี้ โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดอย่างใดบ้าง ปรากฏว่าคำฟ้องตั้งชื่อฐานความผิดว่า "ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท็จ"และตามคำบรรยายฟ้องจะเห็นได้ว่า ในตอนต้น โจทก์กล่าวว่าจำเลยได้บังอาจยื่นรายการไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง โดยยื่นรายการว่าได้ใช้จ่ายไปอย่างไรบ้าง แล้วโจทก์กล่าวย้ำอีกว่าเป็นความเท็จ ความจริงจำเลยมิได้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งดังกล่าว แม้โจทก์จะบรรยายไว้ตอนท้ายด้วยว่า "จำเลยมิได้แจ้งแสดงเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินตลอดจนรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับหรือเจ้าหนี้ตามรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นไว้ ให้ปรากฏเป็นหลักฐานแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษตามที่กฎหมายบังคับ" แต่ข้อความดังกล่าวนี้ก็มีคำว่า "โดย" นำหน้า จึงเป็นเพียงการขยายความประโยคที่อยู่ข้างหน้าให้ทราบว่าที่โจทก์หาว่าจำเลยบังอาจยื่นรายการอันเป็นเท็จนั้นเพราะจำเลยละเว้นการกระทำอันใดเท่านั้น คำฟ้องเช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จประการเดียว เมื่อจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพ และตามคำแถลงรับข้อเท็จจริงดังรายละเอียดข้างต้นนั้นจำเลยก็มิได้ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายที่จำเลยยื่นนั้นเป็นเท็จ แล้วโจทก์ก็ไม่สืบพยานพิสูจน์ว่ารายการดังกล่าวเป็นเท็จ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง แม้ตามคำแถลงรับของจำเลยนั้นแสดงว่าจำเลยมิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินซึ่งมีรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับภายในกำหนดสามเดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้งซึ่งอาจถือว่ามิได้ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในกำหนด แต่ก็ต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลจึงลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2522 มาตรา 5"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th