ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้เช่าตึกแถวเลขที่ 304/22ได้โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อที่จะไม่ให้โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้ และจำเลยที่ 1 ได้ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่จำเลยที่ 2ซึ่งทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ในคดีแพ่ง เป็นการกระทำเพื่อมิให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ และเพื่อมิให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 187, 350,83, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ประทับฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า 'คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่าร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 187 และมาตรา 350ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าคดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นั้นมีมูลหรือไม่

ทางไต่สวนโจทก์นำสืบว่า จำเลยที่ 1 ได้นำเอาสิทธิการเช่าตึกแถวเลขที่ 304/22 แขวงบางซื่อ เขตดุสิต ค้ำประกันเพื่อร่วมรับผิดกับนางเพ็ญศรี คุปตาภรณ์ บุตรสาวจำเลยที่ 1 ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกับโจทก์ไว้ ต่อมานางเพ็ญศรีและจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา โจทก์ฟ้องนางเพ็ญศรี และจำเลยที่ 1ให้ชำระหนี้ดังกล่าว ศาลแพ่งพิพากษาให้นางเพ็ญศรีและจำเลยที่ 1 ชำระหนี้โจทก์ตามสำนวนของศาลแพ่งหมายเลขคดีแดงที่6538/2527 จำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้วไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาจำเลยที่ 1 ได้โอนสิทธิการเช่าตึกดังกล่าวตลอดทั้งทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ที่โจทก์นำยึดไว้แล้วให้จำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ทำให้โจทก์เสียหาย

พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามพยานหลักฐานของโจทก์ ฟังได้เพียงว่า จำเลยที่ 1 ได้โอนสิทธิการเช่าตึกแถวเลขที่ 304/22 ซึ่งจำเลยที่ 1 นำมาค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ไว้ และโอนทรัพย์สินอื่นที่โจทก์นำยึดไว้ให้จำเลยที่ 2 แต่ทางไต่สวนไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รู้เห็นในเรื่องที่จำเลยที่ 1 ได้นำสิทธิการเช่าตึกดังกล่าวไปค้ำประกันการชำระหนี้กับโจทก์ไว้และการร้องขัดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ก็เป็นการใช้สิทธิทางศาลตามกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าฟ้องโจทก์ไม่มีมูลสำหรับจำเลยที่ 2 นั้นชอบแล้ว'

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th