ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นขนาด .38 ชนิดทำขึ้นเอง ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัดใช้ยิงได้ กับมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88 ม.67 จำนวน 1 ลูก ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง อยู่ในสภาพใช้การได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 55, 72, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 8 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 10ริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 55, 72, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 8 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 10ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 3 ปี ฐานมีวัตถุระเบิดที่ใช้ในการสงครามจำคุก 7 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 10 ปี ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ข้อ 9 ให้ลงโทษจำเลยในข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไม่รับอนุญาตจำคุก 1 ปี ช้อหามีวัตถุระเบิดจำคุก 2 ปี รวมเป็น จำคุก 3 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (ข้อหามีวัตถุระเบิด ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษแก้บทเป็นแก้ไขมากไม่ต้องห้ามฎีกา)

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยอาจจะมีได้มีเจตนายึดถือของกลางนั้นไว้เพื่อตนก็เป็นได้ รูปคดียังเป็นที่สงสัย ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย

เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองนั้นกองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งในเมื่อฟังได้ว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตนอันเป็นกระทงความผิดที่จำเลยฎีกาขึ้นมาเช่นนี้ ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกประเด็นข้อหาในเรื่องความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งขึ้นวินิจฉัยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ให้ยกฟ้องในกระทงความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเสียด้วย

พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ริบของกลาง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th