ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทจากโจทก์แล้วผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่า โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท กับให้จำเลยชำระค่าเช่าค่าเสียหายแก่โจทก์

ผู้ร้องยื่นคำร้องสอดว่า ผู้ร้องเป็นภรรยาจำเลย ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง ผู้ร้องมีส่วนเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งจำเลยนำไปขายฝากแก่โจทก์โดยผู้ร้องไม่ทราบ เมื่อผู้ร้องทราบได้ฟ้องจำเลยขอให้ลงชื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของรวมในโฉนดที่ดินพิพาท คดีอยู่ระหว่างพิจารณา ก่อนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทจะหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ผู้ร้องได้ขอไถ่การขายฝาก โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่ผู้ร้องได้ฟ้องโจทก์และจำเลยว่าสมคบกันไม่ยอมให้ผู้ร้องไถ่ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาสัญญาเช่าตามฟ้องโจทก์จำเลยร่วมกันทำขึ้นเพื่อฉ้อฉลผู้ร้อง จำเลยเจตนาผิดสัญญา เพื่อให้โจทก์ขับไล่ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลย ผู้ร้องยังมีสิทธิไถ่การขายฝากได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องผู้ร้องจึงขอเข้ามาเป็นจำเลยเพื่อขอให้ศาลรับรอง คุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1)

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำร้องสอดเป็นคำฟ้อง มีคำสั่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลผู้ร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลสั่งให้ยกคำร้องขออนาถา

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้พิเคราะห์คำร้องสอดของผู้ร้องข้างต้นแล้วเห็นว่าที่ผู้ร้องขอเข้ามาในคดีโดยอ้างสิทธิว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยนำไปขายฝากจนหลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามสัญญาขายฝากนั้น เป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมีส่วนเป็นเจ้าของอยู่ครึ่งหนึ่ง จำเลยทำสัญญาขายฝากโดยผู้ร้องไม่ทราบ ผู้ร้องได้ยื่นฟ้องจำเลยขอลงชื่อร่วมในโฉนดที่ดินทั้งสองแปลงตามฟ้องต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ 4424/2521 ซึ่งจำเลยไม่ยินยอม คดีอยู่ระหว่างพิจารณา ทั้งก่อนที่สัญญาขายฝากจะครบกำหนด ผู้ร้องได้ไปขอไถ่ต่อโจทก์ จำเลยก็ขัดขวางและในที่สุดโจทก์ไม่ยอมให้ไถ่ ผู้ร้องก็ได้ฟ้องโจทก์จำเลยว่าสมคบกันไม่ยอมให้ผู้ร้องไถ่การขายฝากและขอไถ่ ปรากฏตามคดีหมายเลขดำที่ 7331/2522 ของศาลแพ่ง คดีอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนที่จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกกับโจทก์ต่อมาโดยให้ค่าเช่าเดือนละ15,000 บาท ผู้ร้องก็อ้างในคำร้องสอดว่าเป็นการฉ้อฉลโดยจำเลยมีเจตนาจะให้ผิดสัญญาเพื่อโจทก์จักได้มีโอกาสฟ้องขับไล่จำเลยกับบริวารคือผู้ร้อง เช่นนี้ เห็นได้ว่า ผู้ร้องตั้งสิทธิของผู้ร้องเข้ามาในคดีในฐานะคู่ความฝ่ายที่สามและเป็นปฏิปักษ์แก่ทั้งโจทก์และจำเลยหาใช่เข้ามาเพียงเป็นจำเลยต่อสู้คดีกับโจทก์โดยเฉพาะไม่ ซึ่งถ้าศาลรับคำร้องสอดของผู้ร้องไว้โจทก์จำเลยก็ต้องให้การแก้คำร้องสอดของผู้ร้อง คำร้องสอดของผู้ร้องจึงเป็นคำฟ้องและผู้ร้องอยู่ในฐานะเป็นโจทก์หาใช่เป็นจำเลยไม่ ทั้งสิทธิที่ผู้ร้องอ้างว่าถูกโจทก์จำเลยโต้แย้งนี้ ผู้ร้องได้ฟ้องโจทก์จำเลยเป็นคดีต่อศาลไว้แล้วปรากฏตามคดีหมายเลขดำที่ 4424/2521 และ 7331/2522 ของศาลแพ่ง คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา คำร้องสอดของผู้ร้องจึงเป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1)ศาลฎีกาเห็นด้วยในผลที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้อง ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้อง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th