ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายตั๋วเงินและสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ ต่อมาจำเลยทั้งสี่ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว โจทก์ขอให้บังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2530

จำเลยที่ 4 ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2531อ้างเหตุว่าจำเลยที่ 4 ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่ทราบว่าถูกฟ้องคดีหากทราบว่าถูกฟ้องคดีก็สามารถพิสูจน์ความไม่ถูกต้องของพยานหลักฐานโจทก์ได้

ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้ว วินิจฉัยว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 4 ไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงซึ่งจะแสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า หากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้ว จำเลยที่ 4 อาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่จึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย ให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 4 อุทธรณ์คำสั่งว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 4ได้บรรยายครบถ้วนชัดแจ้งแล้ว และขณะโจทก์ดำเนินคดีนี้จำเลยที่ 4ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 4 ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ต่อศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์เป็นการพ้นกำหนดระยะเวลาที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 4 ได้บรรยายครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้ายหรือไม่ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องศาลอุทธรณ์เห็นด้วยในผล พิพากษายืน

จำเลยที่ 4 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "แม้จำเลยที่ 4 ไปศึกษาต่อต่างประเทศก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นเวลาหลายปี มีครอบครัวและประกอบอาชีพอยู่ต่างประเทศ แต่จำเลยที่ 4 ยังมีสัญชาติไทย มีชื่อในทะเบียนบ้านตามที่โจทก์บรรยายไว้ในคำฟ้องและเคยเดินทางกลับมาประเทศไทยหลายครั้งถือว่าจำเลยที่ 4 ยังมีภูมิลำเนาในประเทศไทยตามทะเบียนบ้านนั้นการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง หมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ตลอดจนคำบังคับให้แก่จำเลยที่ 4 ตามภูมิลำเนาดังกล่าวโดยการปิดหมายและคำบังคับจึงเป็นการส่งโดยชอบ คดีนี้พนักงานเดินหมายได้ไปปิดคำบังคับ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 4 ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2527 ปรากฏตามรายงานการเดินหมายลงวันที่ 12ธันวาคม 2527 จึงถือว่าได้มีการส่งคำบังคับให้แก่จำเลยที่ 4โดยชอบแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2530 ปรากฏตามรายงานขออนุญาตขายทอดตลาดทรัพย์ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2530 ในสำนวน จำเลยที่ 4เพิ่งมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2531 ซึ่งพ้นกำหนด 6 เดือนไปแล้วนับแต่วันยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4 จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรก…"

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th