ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๐-๒๕๔
ศาลเดิมฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกำลังตัดต้นเข้าในนาของ ข. อยู่ ด.บุตร์ ข.จะเข้าไปจับกุมจำเลยเพื่อส่งกำนัน จำเลยเอามีดฟัน ด.หนึ่งที จึงตัดสินว่า จำเลยมีผิดฐานชิงทรัพย์ตาม ม.๓๐๐ ให้จำคุก ๕ ปี
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า แม้จำเลยจะเกี่ยวเข้าของ ข.จริง แต่ก็มีเหตุควรสันนิษฐานได้ว่า จำเลยไม่มีเจตนาทุจริตจะลักเข้า เพราะเชื่อว่า จำเลยเกี่ยวแต่หญ้า เมื่อต้นเข้าติดไปบ้างก็ไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยมีผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.๒๕๔ ให้จำคุก ๑ ปี
โจทย์ฎีกา
ฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจำเลยได้มีเจตนาลักตัดต้นเข้าของ ข.นั้นเปนการวินิจฉัยผิดประเด็นที่จำเลยตั้งรูปความขึ้นต่อสู้คดีเพราะพยานจำเลยเบิกความว่า พวกเจ้าทรัพย์ได้พายเรือมาทำร้ายจำเลย เมื่อพยานจำเลยฟังไม่ได้แล้ว ก็ย่อมต้องฟังคำพยานโจทย์ว่าเหตุเกิดขึ้นที่นาของ ข.เพราะมีวัดถุพยานประกอบ คือมีรอยตัดต้นเข้าด้วย จึงตัดสินยืนตามศาลเดิม
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








