ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านเลขที่ 200แขวงบางมด เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินส่วนหนึ่งของโฉนดเลขที่ 5077 ที่จำเลยเช่าจากโจทก์ผู้เป็นเจ้าของแล้ว โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวออกจากที่ดินของโจทก์ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม ขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีศาลมีคำสั่งออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้อยู่อาศัยในบ้านเลขที่ 200ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 16 พฤษภาคม2533 ของศาลชั้นต้น ในคดีหมายเลขแดงที่ 1888/2531 ระหว่างนางสาวสาลินี ไกรแสงศรี โดยนายสมบัติ ไกรแสงศรี โจทก์นางวา อินทะกูลหรือไกรแสงศรี จำเลย ซึ่งเป็นผู้ร้องคดีนี้ว่าผู้ร้องยอมอาศัยห้องหนึ่งของบ้านเลขที่ 200 ของนางสาวสาลินีอย่างผู้อาศัย และทำหน้าที่เก็บค่าเช่าห้องจากผู้เช่าอีก 6 ห้องให้นางสาวสาลินี หากผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงยอมออกจากบ้านพิพาทและยอมให้นางสาวสาลินีบังคับคดีได้ทันที บ้านพิพาทในคดีดังกล่าวเป็นบ้านหลังเดียวกับบ้านพิพาทคดีนี้ บ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของนางสาวสาลินีหาใช่กรรมสิทธิ์ของจำเลย ผู้ร้องมิได้กระทำผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งยังมีผลบังคับอยู่สัญญาประนีประนอมยอมความคดีนี้ไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายขอให้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและหมายบังคับคดีนี้

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องออกจากบ้านพิพาทภายใน 20 วันนับแต่วันที่ 16 เมษายน 2533

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บ้านพิพาทปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดิน เมื่อโจทก์ขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านพิพาทออกจากที่ดินของโจทก์และจำเลยตกลงยอมรื้อถอนบ้านพิพาทออกไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ซึ่งนางสาวสาลินีบุตรจำเลยยอมรับว่า จำเลยเป็นผู้ดูแลบ้านพิพาทและยินยอมที่จะปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความคดีนี้ นางสาวสาลินีจึงอยู่ในฐานะวงศ์ญาติและบริวารของจำเลย ผู้ร้องในฐานะผู้อาศัยอยู่ในบ้านพิพาทตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งทำไว้กับนางสาวสาลินี แม้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว ก็มีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณี หามีผลต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบริวารของจำเลยเช่นเดียวกัน หาใช่มีอำนาจพิเศษอันจะเป็นข้ออ้างต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจะขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและหมายบังคับคดีในคดีนี้สำหรับฎีกาของผู้ร้องที่ว่า เหตุที่เพิ่งยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์เรื่องโจทก์ผู้ร้องเช่าที่ดินต่อจากจำเลย และนางสาวสาลินีไม่ได้มอบอำนาจให้จำเลยดูแลบ้านพิพาทและฟ้องคดีนั้นเป็นฎีกาที่ไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th