ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2511 จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 8,730 บาท เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2525 จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าและไม่จ่ายค่าชดเชยขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 52,380 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2525 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2525 เพราะโจทก์กระทำผิดวินัยตามข้อบังคับของจำเลยฉบับที่ 9 ข้อ 5(5) โดยขอยืมเงินจากนายสุนทร แสงพิทักษ์ ลูกค้าของจำเลยจำนวน 3,000 บาท เป็นการจงใจทำให้จำเลยเสียหายและฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดพิจารณาโจทก์แถลงรับว่าได้กู้ยืมเงินนายสุนทรลูกค้าของจำเลยจำนวน 3,000 บาทจริง จำเลยแถลงรับว่าโจทก์ได้ใช้หนี้เงินยืมนายสุนทรแล้ว

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่โจทก์กู้ยืมเงินลูกค้าของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลย แต่คำสั่งของจำเลยมิได้กำหนดว่าเป็นกรณีร้ายแรงที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้ พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 52,380 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ตามเอกสารท้ายคำให้การซึ่งเป็นหนังสือเวียนที่จำเลยกำหนดเกี่ยวกับความประพฤติให้พนักงานของจำเลยปฏิบัติในเรื่องนี้มีข้อความเพียงว่า "2 โดยหนังสือเวียนฉบับนี้ขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่าพฤติกรรมดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับพนักงานธ.ก.ส. และหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษคือ ฯลฯ 2.3 การกู้ยืมเงินลูกค้า การเรียกร้องหรือแสวงหาผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนจากลูกค้า" เท่านั้น จำเลยมิได้กำหนดว่าการกู้ยืมเงินลูกค้าเป็นกรณีที่ร้ายแรงและเพียงแต่กล่าวว่าผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษ โทษหนักเบาอย่างไรไม่ปรากฏการกระทำเกี่ยวกับความประพฤติของพนักงานจำเลยที่จะถือว่าเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาถึงลักษณะการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการร้ายแรงหรือไม่การกู้ยืมเงินกันมิใช่เป็นการกระทำอันผิดต่อกฎหมาย เป็นกรณีที่กระทำกันได้เป็นปกติธรรมดาทั่วไปประกอบกับไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บีบบังคับลูกค้าเพื่อให้ยอมกู้ยืมเงินแต่อย่างใด จะอาศัยเหตุเพียงว่าจำเลยมีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงินอย่างเดียวมาเป็นเครื่องชี้ว่าการกระทำของโจทก์เป็นกรณีร้ายแรงหาได้ไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th