คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3213/2560
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม. 102
คนร้ายซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีนไว้ที่บริเวณแฮนด์ (มือจับ) ด้านซ้าย และอยู่ภายในช่องแฮนด์ที่มีปลอกพลาสติกหุ้มอยู่ซึ่งมิใช่เป็นที่เก็บสิ่งของ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ ที่คนร้ายได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงต้องริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลาง ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100/1, 102 ริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดโทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 66 วรรคสอง จำคุก 4 ปี และปรับ 400,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้กักขังแทนค่าปรับได้ไม่เกิน 2 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาเฉพาะประเด็นเรื่องริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลาง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ขณะที่ร้อยตำรวจเอกวินัยกับพวก กำลังตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมกัน มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กบล อุตรดิตถ์ 84 ของกลาง มายังบริเวณดังกล่าว เมื่อคนร้ายเห็นร้อยตำรวจเอกวินัยจึงได้จอดรถจักรยานยนต์ของกลางและวิ่งหลบหนีไป ร้อยตำรวจเอกวินัยจึงยึดรถจักรยานยนต์ของกลาง ต่อมาร้อยตำรวจเอกวินัยกับร้อยตำรวจตรีชิงชัยร่วมกันตรวจค้นรถจักรยานยนต์ของกลางพบเมทแอมเฟตามีนของกลางอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 บรรจุในหลอดกาแฟสีเหลือง หลอดละ 20 เม็ด 2 หลอด พันด้วยเทปกาวสีดำซุกซ่อนอยู่ในแฮนด์ (มือจับ) ด้านซ้ายของรถจักรยานยนต์ของกลาง วันที่ 3 เมษายน 2557 ร้อยตำรวจเอกวินัยกับพวกจับกุมจำเลยได้ ชั้นสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่า มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาในประเด็นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่กระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น การกระทำความผิดของจำเลยจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลางชอบหรือไม่ เห็นว่า แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องก็ชอบที่จะต้องมีคำสั่งเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลางที่โจทก์ขอให้มีคำสั่งริบด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 (9) ประกอบมาตรา 215 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 การที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยเกี่ยวกับของกลางดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ คดีนี้มีการกล่าวหาและฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102 บัญญัติว่า บรรดายาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 ประเภท 4 หรือประเภท 5 เครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะหรือวัตถุอื่นซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ริบเสียทั้งสิ้น เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 และคนร้ายซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ที่บริเวณแฮนด์ (มือจับ) ด้านซ้าย และอยู่ภายในช่องแฮนด์ที่มีปลอกพลาสติกหุ้มอยู่ซึ่งมิใช่เป็นที่เก็บสิ่งของ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ ที่คนร้ายได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงต้องริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลางตามบทบัญญัติดังกล่าว ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบเมทแอมเฟตามีนและรถจักรยานยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.3196/2559
แหล่งที่มา nan
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ จำเลย - นายสถาพรหรือบอม สุนทรชัย
ชื่อองค์คณะ เทพ อิงคสิทธิ์ นิพนธ์ ใจสำราญ ไมตรี สุเทพากุล
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ - นางศิริพร พวงสำลี ศาลอุทธรณ์ - นายวัชรชัย แสงอุไร