ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2939จำเลยทั้งสองได้เช่าที่ดินโฉนดดังกล่าวเนื้อที่ 60 ตารางวา สัญญาเช่าหายไป จำเลยทั้งสองได้ปลูกตึกแถว 2 คูหา เลขที่ 396,398 ด้านหลังมีเรือนไม้ 2 ชั้น หนึ่งหลังปัจจุบันตึกและเรือนไม้อยู่ในสภาพทรุดโทรมน่าจะเป็นอันตรายในการอยู่อาศัย และอยู่ในที่ชุมนุมชนทำให้ไม่น่าดู โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยปรับปรุง จำเลยเพิกเฉย โจทก์มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดิน ประกอบกับจำเลยค้างค่าเช่า จึงได้บอกเลิกการเช่าให้จำเลยและบริวารรื้อตึกแถวและเรือนไม้ออกไป จำเลยเพิกเฉย การที่จำเลยยังอยู่ในที่พิพาทเป็นการอยู่โดยละเมิด ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้พิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนตึกแถวและบ้านไม้ออกไปจากที่ดินโจทก์ ห้ามเกี่ยวข้อง กับให้จำเลยใช้ค่าเช่าและค่าเสียหาย

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยทั้งสองไม่ได้เช่าที่ดินโจทก์ แต่หลวงศรีศรยุทธสามีโจทก์และโจทก์ได้ตกลงให้จำเลยที่ 1 กับสามีปลูกตึกแถวและเรือนไม้บนที่ดินพิพาทเพื่ออยู่อาศัยมีกำหนด 30 ปี จำเลยและสามีจ่ายเงินค่าตอบแทนจำนวน 87,000 บาท ให้แก่หลวงศรีศรยุทธและโจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิอยู่ในสถานที่ปลูกสร้างไปจนครบกำหนดตามที่ตกลงกัน โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวเลิกการเช่ากับจำเลยและไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หลวงศรีศรยุทธได้ตกลงให้จำเลยที่ 1 และสามีเช่าที่พิพาทปลูกตึกแถวอยู่อาศัย กำหนด 30 ปี โดยจำเลยที่ 1 และสามีต้องเสียค่าตอบแทนให้หลวงศรีศรยุทธเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท เมื่อครบ 30 ปีแล้ว ตึกแถวที่จำเลยที่ 1 กับสามีสร้างขึ้นตกเป็นของหลวงศรีศรยุทธ ข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 และสามีกับหลวงศรีศรยุทธจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ซึ่งสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อหลวงศรีศรยุทธถึงแก่กรรม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะภริยาผู้มีส่วนได้รับมรดกของหลวงศรีศรยุทธต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ซึ่งหลวงศรีศรยุทธมีต่อจำเลยที่ 1 ตามสัญญาต่างตอบแทนที่ตกลงกันไว้ตามกฎหมาย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง เพราะจำเลยอยู่ในที่พิพาทยังไม่ถึง 30 ปีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th