ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยครั้งสุดท้ายเป็นผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาพล จังหวัดขอนแก่น อัตราค่าจ้างเดือนละ 10,990 บาท เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2523 จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2523 อ้างว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างเดิมหรือให้จำเลยจ่ายเงินบำนาญเดือนละ 5,934.60 บาท เงินสวัสดิการสงเคราะห์ 25,000 บาท เงินระหว่างพักงาน 114,295.99 บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีเป็นเงิน 14,287 บาท ค่าชดเชย 65,940 บาทแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยมิได้ฝ่าฝืนสัญญาจ้างและกฎหมายคุ้มครองแรงงาน จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะขณะโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาพล จังหวัดขอนแก่น ได้ทำหลักฐานเท็จเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงตำรวจรักษาการณ์ที่ธนาคารออมสิน สาขาพล แล้วนำไปใช้ส่วนตัว นอกจากนี้โจทก์ได้จำหน่ายแท้งค์น้ำของธนาคารออมสิน สาขาพล 2 ใบเป็นครุภัณฑ์ชำรุด แต่ความจริงชำรุดเพียง 1 ใบ และโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยรายงานขออนุมัติซ่อมรถยนต์ประจำธนาคารออมสินสาขาพล ว่าชำรุด 4 รายการ เมื่อได้รับอนุมัติแล้วโจทก์ซ่อมเพียงรายการเดียวจำเลยได้ไล่โจทก์ออกจากตำแหน่งฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญ เงินสวัสดิการสงเคราะห์ เงินในระหว่างถูกพักงานและค่าชดเชยทั้งจำเลยไม่อาจรับโจทก์กลับเข้าทำงานอีก ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การกระทำของโจทก์เป็นการทุจริตต่อหน้าที่คำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานชอบด้วยระเบียบของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญ เงินสวัสดิการสงเคราะห์ เงินระหว่างพักงาน และไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีได้ความว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน2522 โจทก์ได้ทำใบ อ.ส. 20 เบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงตำรวจรักษาการณ์ธนาคารออมสิน สาขาพล โดยกรอกรายการเองและสั่งอนุญาตให้จ่ายเป็นเงิน1,350 บาท เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง 45 วัน วันละ 30 บาท เห็นว่าเอกสารเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงที่โจทก์ทำขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาการณ์จ่าสิบตำรวจประกงเป็นผู้ลงชื่อรับเงิน นายมนตรีพนักงานของจำเลยลงชื่อจ่ายเงินโดยได้รับอนุมัติจากนายธงชัยหัวหน้าฝ่ายการออมสินซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์แจ้งอนุญาตให้จ่ายตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2522 ตามที่ขอ การที่โจทก์นำเงินค่าเบี้ยเลี้ยงตำรวจรักษาการณ์เพื่อนำไปซ่อมรถยนต์ของธนาคารจำเลย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาการณ์ยอมมอบเงินให้แล้วเพราะเห็นว่าเป็นรถของธนาคารจึงไม่ขัดข้องและมีการซ่อมจริงโดยมิได้เอาไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวแต่ประการใด เป็นการขาดเจตนาทุจริต ถือไม่ได้ว่าการกระทำของโจทก์เป็นการทุจริตต่อหน้าที่

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่ยกฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงตำรวจรักษาการณ์ธนาคารออมสินสาขาพล ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาในประเด็นข้อที่ว่าสมควรรับโจทก์กลับเข้าทำงานหรือให้จำเลยจ่ายเงินแก่โจทก์ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th