ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนก.ท.ม - 4808 และได้เอาประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันนี้ไว้กับจำเลยที่ 2นายชุมพลลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 โดยประมาทเป็นเหตุให้บุตรของโจทก์ถึงแก่ความตายจึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าทำศพและค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า นายชุมพลผู้ขับรถยนต์คันเกิดเหตุไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และนายชุมพลไม่ได้ขับรถยนต์โดยประมาท โจทก์มิได้ขาดไร้อุปการะค่าทำศพไม่มากตามฟ้อง และจำเลยที่ 2 ไม่ได้รับประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าทำศพ และค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาเรื่องค่าเสียหายเกี่ยวกับค่าทำศพว่า โจทก์มิได้นำสืบถึงรายละเอียดแห่งค่าทำศพ และไม่มีหลักฐานว่าได้จ่ายเงินค่าทำศพไปจริง จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจริง เห็นว่า แม้โจทก์จะมิได้นำสืบถึงรายละเอียดว่าได้ใช้จ่ายเงินเป็นค่าทำศพไปเป็นจำนวนเท่าใดศาลก็วินิจฉัยกำหนดให้ตามควรแห่งพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 สำหรับกรณีนี้ ผู้ตายรับราชการเป็นครู ค่าทำศพ 10,000 บาท เห็นว่าเหมาะสมกับฐานะผู้ตายและโจทก์แล้ว

ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 นั้นศาลฎีกาเชื่อตามพยานหลักฐานโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 ได้เอาประกันภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ก.ท.บ - 4808 ไว้กับจำเลยที่ 2 ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือกรมธรรม์ประกันภัยมาแสดงต่อศาลด้วยนั้น เห็นว่าโจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ในฐานะโจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่ 2 หากแต่โจทก์เป็นบุคคลภายนอกฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดในมูลละเมิด การนำสืบว่าจำเลยที่ 2 รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.บ - 4808 ของจำเลยที่ 1 จึงไม่ตกอยู่ในบทบังคับของกฎหมายให้โจทก์ต้องนำกรมธรรม์ประกันภัยระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 มาแสดงประกอบการนำสืบ

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีจำเลยที่ 2 ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th