ได้ความว่าที่ดินตามใบไต่สวนหมายเลยที่ ๖๗๖ นั้นมีอยู่ ๑๐๐ ตรางวา บ.สามี อ.ได้เช่าจากโจทย์เปนเนื้อที่ ๒๘ ตรางวา แลกจาก บ.แล้วยังมี ช.เช่าจากโจทย์อีก ในระหว่างเช่าอยู่นี้ บ.ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินเพื่อออกใบไต่สวนแลใบไต่สวนได้ออกมีชื่อ บ.แล อ.สามี ภรรยารวมอยู่ด้วยกัน ต่อมาโจทย์ได้ฟ้องขับไล่ บ.ออกจากที่เช่าแลให้ถอนชื่อออกจากใบไต่สวนคดีถึงที่สุดให้ขับไล่ บ.แลให้ถอนชื่อ แต่ศาลบังคับไปไม่ได้ เพราะมีชื่อ อ.ภรรยารวมอยู่ด้วย คือ อ.เปนเจ้าของที่ดินทางซีกทิศตวันตกโดยที่ดินตอนนี้ อ.ได้รับโอนแลปกครองมาโดยปรปักษ์ทั้งมิได้เช่าจากโจทย์ด้วย เมื่อมีการลำบากในการบังคับดังนี้ โจทย์กับ บ. อ.จำเลย จึงปรองดองกันตกลงทำสัญญากันใหม่คือ ให้ บ.อ.จำเลยเช่าจากโจทย์ เปนเนื้อที่ ๖๐ วา ส่วนของ อ.หาได้เช่าด้วยไม่ บัดนี้โจทย์ฟ้องขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากใบไต่สวนแลเรียกค่าเช่าเต็มตามเนื้อที่ในใบไต่สวนที่ ๖๗๖

ฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ขับไล่แลถอนชื่อ บ.อ.จำเลยออกจากใบไต่สวนที่ ๖๗๖ ตามสัญญาเช่าฉบับใหม่เฉภาะตรงเส้นหมายสีแดงอ่อน ส่วนทางซีกทิศตวันตกโจทย์ไม่มีอำนาจขับไล่ฤาถอนชื่อออกได้ เพราะเปนที่ของ อ.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา