ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งยี่สิบสองสำนวนฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการขายข้าว จำเลยที่ 2 ที่ 3และที่ 4 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำแทนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5เป็นผู้จัดการของบริษัทจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งห้าได้จ้างโจทก์ทั้งยี่สิบสองคนเป็นลูกจ้าง เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2534 จำเลยทั้งห้าได้สั่งพักงานโจทก์ทั้งยี่สิบสองโดยไม่มีกำหนด อ้างว่าเพื่อปรับปรุงกิจการโดยไม่จ่ายค่าจ้างให้โดยโจทก์ทั้งยี่สิบสองไม่มีความผิด นอกจากนั้นจำเลยทั้งห้าไม่ต่ออายุสัญญาเช่าอาคารที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ พร้อมทั้งดำเนินการขนย้ายเครื่องจักรเครื่องมือออกจากสำนักงานและปิดสถานที่ทำงาน โจทก์ทั้งยี่สิบสองได้ติดต่อขอทำงานและขอรับค่าจ้างตามปกติต่อไปแต่จำเลยทั้งห้าเพิกเฉยจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 7 วัน ตามพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยทั้งห้าได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งยี่สิบสองตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2534 โดยโจทก์ทั้งยี่สิบสองไม่มีความผิดขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าชำระค่าจ้างค้างจ่ายและค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทั้งยี่สิบสองพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้งห้าให้การว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 เป็นเพียงกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นเพียงพนักงานของจำเลยที่ 1 มิได้เข้าหุ้นหรือร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการว่าจ้างโจทก์ ดังนั้นจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 5 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เลิกจ้างโจทก์ทั้งยี่สิบสองเพราะโจทก์ทั้งยี่สิบสองมีความผิดร่วมกันทุจริตเบียดบังข้าวสารซึ่งอยู่ในความดูแลไป ทำให้จำเลยที่ 1 เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าชำระเงินให้โจทก์ทั้งยี่สิบสองพร้อมดอกเบี้ย ทั้งนี้จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 5 ไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว คำขออื่นของโจทก์ให้ยกเสียจำเลยทั้งห้าทุกสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า "คดีคงมีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาแต่เพียงว่า จำเลยที่ 5 เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งยี่สิบสองตามความหมายในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 2 หรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล มีจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 เป็นกรรมการ และมีจำเลยที่ 5 เป็นผู้จัดการจำเลยที่ 5 มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานได้และทำการแทนจำเลยที่ 1ได้ จากข้อเท็จจริงดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยที่ 5 ได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนกรรมการของจำเลยที่ 1 จึงต้องถือว่าจำเลยที่ 5เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งยี่สิบสองตามคำนิยามของคำว่า "นายจ้าง"ในข้อ 2 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานซึ่งให้คำนิยามของคำว่า "นายจ้าง" ไว้ว่าให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลด้วย ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 5 เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งยี่สิบสองจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งห้าทุกสำนวนฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th