สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3349/2542

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3349/2542

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 194, 845

โจทก์จัดหาผู้ซื้อมาทำสัญญาซื้อขายกับจำเลย โดยจำเลยให้ค่าบริการแก่โจทก์ร้อยละ 1.5 ของยอดขายตามสัญญา คิดเป็นเงิน 7,470,604.95 บาท ตกลงแบ่งชำระเป็น 3 งวด ดังนั้น เมื่อจำเลยชำระเงินให้โจทก์เพียงงวดเดียว จำเลยจึงต้องรับผิดชำระงวดที่สองและงวดที่สามที่เหลือ แม้ต่อมาผู้ขายจะตกลงเปลี่ยนแปลงสัญญากับ ผู้ซื้อใหม่โดยลดยอดขายลงก็ตาม ก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นความรับผิดที่จะต้องชำระเงินจนครบ เพราะถือว่าได้มีการทำสัญญาซื้อขายกันเป็นผลสำเร็จเนื่องจากการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการแล้ว

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 5,084,948.83 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 4,482,362.96 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์มีสิทธิได้ค่าธรรมเนียมเพียง 787,186.98 บาท เท่านั้น และจำเลยที่ 1 ได้จ่ายเงินให้โจทก์เกินจำนวนไป 2,201,054.93 บาท ขอให้บังคับโจทก์คืนเงิน 2,201,054.93 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลยที่ 1

จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การขอให้ยกฟ้อง

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 4,482,362.96 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 2,241,181.48 บาท นับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2535 และดอกเบี้ยอัตราเดียวกันของเงินต้นจำนวนเท่ากันนับแต่วันที่ 30 เมษายน 2535 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ทั้งนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (วันที่ 4 มกราคม 2537) รวมกันไม่เกิน 5,084,948.33 บาท ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 40,000 บาท ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 และฟ้องแย้ง ค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนของจำเลยที่ 2 และที่ 3 และฟ้องแย้งให้เป็นพับ

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 10,000 บาท แทนโจทก์

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ต้องจ่ายเงินให้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่เพียงใด และโจทก์จะต้องคืนเงินให้จำเลยที่ 1 ตามฟ้องแย้งหรือไม่นั้น เมื่อพิจารณาสัญญาแล้ว เห็นว่า เป็นเรื่องที่โจทก์จัดหาผู้ซื้อมาทำสัญญาซื้อขาย โดยจำเลยที่ 1 ให้ค่าบริการให้แก่โจทก์ร้อยละ 1.5 ของยอดขายตามสัญญา คิดเป็นเงิน 7,470,604.94 บาท โดยตกลงแบ่งชำระให้โจทก์เป็น 3 งวด ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ชำระให้โจทก์เพียงงวดเดียวจึงต้องรับผิดชำระงวดที่สองและงวดที่สามตามที่โจทก์ฟ้อง แม้ต่อมาผู้ขายจะตกลงเปลี่ยนแปลงสัญญากับผู้ซื้อใหม่ โดยลดยอดขายลงก็ตาม ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นความรับผิด เพราะถือว่าได้มีการทำสัญญาซื้อขายกันเป็นผลสำเร็จ เนื่องจากการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการแล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวโจทก์จึงไม่ต้องคืนเงินตามฟ้องแย้งให้จำเลยที่ 1

พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 10,000 บาท แทนโจทก์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทแมคเวิลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จำเลย - บริษัทแอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับพวก

ชื่อองค์คณะ เหล็ก ไทรวิจิตร พันธาวุธ ปาณิกบุตร กิติยาภรณ์ อาตมียะนันทน์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ - นางสาวสิริกานต์ มีจุล ศาลอุทธรณ์ - นายสุรศักดิ์ สุวรรณประกร

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th