สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3361/2529

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 3361/2529

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132, 249, 264

โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์ที่ฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายและการจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ขอให้ห้ามจำเลยที่1จำหน่ายจ่ายโอนที่ดินทั้งสองแปลงพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินและห้ามจำเลยที่1รื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวศาลอุทธรณ์สั่งห้ามจำเลยที่1ทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างอุทธรณ์เว้นแต่นิติกรรมไถ่ถอนจำนองและห้ามจำเลยที่1รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินพิพาทด้วยจำเลยที่1ฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนขายที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์และจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาททั้งสองแปลงร่วมกับจำเลยที่1กับเพิกถอนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจำนองระหว่างจำเลยที่1ที่2ที่เกี่ยวกับที่ดินส่วนที่เป็นของโจทก์ดังนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้คุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์จึงไม่จำเป็นแก่คดีและที่จำเลยที่1ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลยที่1ต่อไปศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฎีกาจำเลยที่1.

เนื้อหาฉบับเต็ม

กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายและการจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แล้วจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดที่ดินตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามฟ้องโดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยสุจริตจากนายศุภชัย ตรีทศเดชพี่ชายของโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ทำนิติกรรมซื้อขาย จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2รับจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 ไว้โดยถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยที่ 3 ให้การว่า เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 3 จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการซื้อขายที่ดินตามฟ้องตามความประสงค์ของโจทก์และโดยสุจริต ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ขอให้ห้ามจำเลยที่ 1 จำหน่ายจ่ายโอนที่ดินทั้งสองแปลงพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน และห้ามจำเลยที่ 1 รื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ศาลอุทธรณ์สั่งว่า ห้ามจำเลยที่ 1 ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างอุทธรณ์เว้นแต่นิติกรรมไถ่ถอนจำนอง และห้ามจำเลยที่ 1 รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินพิพาทด้วย จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่ง ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนขายที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์ระหว่างนายศุภชัยกับจำเลยที่ 1 และจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวทั้งสองแปลงร่วมกับจำเลยที่ 1 กับเพิกถอนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจำนองระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่เกี่ยวกับที่ดินส่วนที่เป็นของโจทก์เสีย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าตามที่โจทก์ร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้วนั้นบัดนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนขายที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์และลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของแล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้คุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จึงไม่จำเป็นแก่คดีและที่จำเลยที่ 1 ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลยที่ 1 ต่อไปแต่ประการใด พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 1

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา ADMIN

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง อุทัยวรรณ ฮิล จำเลย - บริษัท ธารธนา จำกัด กับพวก

ชื่อองค์คณะ ไพรัช วงศ์วัฒนะ โสภณ รัตนากร วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE