ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2533 จำเลยกับบิดาได้นำรถไถนาเข้าไปไถปรับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก. ) เลขที่ 1099 ของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. ) เลขที่ 2315 และครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของจำเลยแปลงนี้ไม่ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์โจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปี นับแต่เวลาถูกรบกวนการครอบครองขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาโดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วคดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยนำรถไถนาเข้าไปไถปรับที่พิพาทเพื่อจัดสรรขายขอให้ขับไล่จำเลย ให้การ ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยได้มาโดยซื้อมาจากนางมะลิ ฉ่ำพงษ์และโจทก์นำคดีมาฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่เวลาถูกรบกวนการครอบครอง เห็นว่าแม้ศาลชั้นต้น กำหนด ประเด็น ข้อพิพาทข้อ 3 ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะนำคดีมาฟ้อง เกิน 1 ปี นับแต่เวลา ถูก รบกวน การ ครอบครองคดีก็ไม่มีประเด็นเรื่องแย่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 เพราะจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ โดยจำเลยได้ให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยมา แต่แรกการแย่งการครอบครองต้องยอมรับก่อน ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แต่จำเลยแย่งการครอบครองมา เมื่อคดีไม่มีประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 การ ที่ศาลล่างทั้งสองหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัยจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา 246 เป็น การ ไม่ชอบ ซึ่งปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจ ยกขึ้น วินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5) ประกอบ มาตรา 246, 247 คดีจึงมีปัญหาวินิจฉัยเพียงว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินพิพาทหรือไม่ โดยประเด็นดังกล่าวศาลล่างทั้งสองยังไม่ได้วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทจำเลยอยู่โดยไม่มีสิทธิจึงต้องออกไปจากที่พิพาท

พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. ) เลขที่ 1099 ของโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องอีกต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th