ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 21,640 บาท เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2528 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์เจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติงานได้โดยสม่ำเสมอ ซึ่งมิใช่เป็นการให้ออกเพราะโจทก์กระทำความผิด จำเลยไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2526 ถึง พ.ศ. 2528 โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 129,840 บาท และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีรวม 32,135 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันเลิกจ้างเป็นต้นไป

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติงานได้แพทย์มีความเห็นว่าสมควรให้โจทก์ออกจากงาน การเจ็บป่วยของโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เพราะไม่มีพนักงานปฏิบัติงานอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ จำเลยจึงต้องเลิกจ้างโจทก์ตามระเบียบการธนาคารออมสินฉบับที่ 121 ข้อ 6.1 จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยเพราะเข้าข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน เมื่อโจทก์ออกจากงานจำเลยได้จ่ายเงินทุนเลี้ยงชีพแล้วเป็นเงิน 822,720 บาท ตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 67 ว่าด้วยเงินทุนเลี้ยงชีพของพนักงานธนาคารออมสินซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าค่าชดเชยที่โจทก์เรียกร้อง สำหรับค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปี 2526 โจทก์หยุดมาแล้ว 6 วัน ที่ฟ้องเรียกมาเต็มจำนวนจึงไม่ถูกต้อง จำนวนวันที่เหลือโจทก์สมัครใจไม่หยุดเอง จำเลยมิได้ขัดขวางหรือระงับการใช้สิทธิของโจทก์และค่าจ้างสำหรับปี 2526 ขาดอายุความแล้ว ส่วนปี 2527 โจทก์ใช้สิทธิหยุดครบ15 วัน ปี 2528 โจทก์ทำงานไม่ครบกำหนดตามที่จำเลยกำหนด หากโจทก์มีสิทธิเรียกค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2528 โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยไม่ใช่ได้รับเต็ม 15 วันตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดพิจารณา โจทก์แถลงรับว่าปี 2526 โจทก์หยุดพักผ่อนประจำปีแล้ว6 วันจริง ปี 2527 โจทก์หยุดพักผ่อนประจำปีแล้ว 15 วันจริง จำเลยแถลงยอมรับว่าปี 2528 โจทก์ยังไม่ได้หยุดพักผ่อนก็ถูกเลิกจ้างเสียก่อน ศาลแรงงานกลางเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานคู่ความทั้งสองฝ่าย

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยตามฟ้องสำหรับค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2526 ที่เหลืออีก 9 วัน ขาดอายุความแล้ว สำหรับปี 2528 โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนที่โจทก์มีสิทธิได้รับคิดเป็นเงิน 1,546.65 บาท พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 129,840 บาท และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2528 จำนวน 1,546.65 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันเลิกจ้างให้แก่โจทก์

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 45 กำหนดว่า "ถ้านายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างประจำโดยลูกจ้างมิได้มีความผิดตามข้อ 47 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามข้อ 10 และข้อ 32 ด้วย" เห็นได้ว่าค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีนั้น ตราบใดที่ลูกจ้างยังมิได้ถูกเลิกจ้างลูกจ้างหามีสิทธิจะเรียกร้องไม่ ลูกจ้างจะมีสิทธิเรียกร้องได้ก็ต่อเมื่อถูกเลิกจ้างแล้วหรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ลูกจ้างอาจบังคับสิทธิเรียกร้องค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีได้นับแต่วันถูกเลิกจ้าง ซึ่งคดีนี้โจทก์ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 22กุมภาพันธ์ 2528 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2528 อายุความแห่งสิทธิเรียกร้องค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี พ.ศ. 2526 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(9)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 10 กำหนดไว้ว่า"ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่าปีละหกวันทำงาน โดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดล่วงหน้าให้

นายจ้างและลูกจ้างจะตกลงกันล่วงหน้า สะสมและเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีไปรวมหยุดในปีอื่นก็ได้"

ตามระเบียบการของจำเลยกำหนดว่า พนักงานที่มีเวลาทำงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปลาได้ 15 วันทำงาน โจทก์ทำงานมาแล้วถึง 37 ปี 10 เดือน 21 วัน จึงปรับได้กับประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ดังกล่าวซึ่งมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายโดยประกอบกับระเบียบการของจำเลยเอง ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งหากโจทก์ทำงานครบ 5 ปีในปีใด ในปีต่อไปย่อมเกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะหยุดพักผ่อนมีกำหนด15 วันทำงานได้ทันที โดยหาจำต้องทำงานในปีต่อไปนั้นจนครบ 1 ปีไม่โดยนัยนี้โจทก์ได้ลาหยุดพักผ่อนประจำปี พ.ศ. 2527 แล้วตามสิทธิ ในปีต่อไปคือ พ.ศ. 2528โจทก์ยังทำงานต่อมาอีก สิทธิของโจทก์ที่จะหยุดพักผ่อน 15 วันย่อมเกิดขึ้นทันทีโดยหาจำต้องทำงานให้ครบ 1 ปี ใน พ.ศ. 2528 ไม่

ระเบียบการของจำเลยกำหนดว่า กรณีที่โจทก์เจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่การงานของตนได้โดยสม่ำเสมอแต่ไม่ถึงทุพพลภาพ ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้ออกจากธนาคารแล้ว ให้สั่งโจทก์ออกจากธนาคารได้นั้น แม้ระเบียบมีอยู่เช่นนี้จริงแต่การเจ็บป่วย ไม่มีประสิทธิภาพ หาใช่เป็นการกระทำผิดหรือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบการของจำเลยประการใดไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมีอำนาจเลิกจ้างโจทก์ได้ตามระเบียบการฉบับดังกล่าว แต่เมื่อเลิกจ้างแล้วจำเลยจะต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่จะต้องพิจารณาตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46ซึ่งมีข้อยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามข้อ 46 วรรคสาม และข้อ 47(1) ถึง (6)กรณีของโจทก์มิได้ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยประการใดประการหนึ่งทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชย

คำให้การจำเลยตอนแรกมีความหมายเป็นนัยว่า เมื่อโจทก์ออกจากงานได้รับเงินบำเหน็จเป็นจำนวนมากกว่าค่าชดเชยอยู่แล้ว เหตุใดจึงมาเรียกค่าชดเชยซึ่งเป็นจำนวนน้อยกว่าอยู่อีก ส่วนความในตอนหลังปฏิเสธที่จะไม่จ่ายค่าชดเชยเพราะเกี่ยวด้วยด้านตัวโจทก์เองที่ฝ่าฝืนระเบียบของจำเลย อันต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ กำหนดไว้ ส่วนข้อที่เงินบำเหน็จซึ่งจำเลยจ่ายให้โจทก์รับไปแล้วเป็นเงินประเภทเดียวกับค่าชดเชยหรือไม่ โจทก์ฟ้องเรียกเงินประเภทเดียวซ้ำกันมาอีกหรือไม่ หามีในคำให้การประการใดไม่ การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าเงินบำเหน็จที่โจทก์ได้รับไปแล้วเป็นเงินต่างประเภทกับค่าชดเชย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นตามคำให้การ ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะอุทธรณ์นอกประเด็นตามคำคู่ความได้และไม่เป็นการผูกพันที่ศาลฎีกาจะต้องรับวินิจฉัยตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางด้วยเหตุนี้

ข้อที่โจทก์ทวงถามแล้วหรือไม่ จำเลยมิได้ปฏิเสธให้เป็นประเด็นในคำให้การเพราะฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีพ.ศ. 2526 6,297 บาท ให้จ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี พ.ศ. 2528จำนวน 10,820 บาท รวมเป็นเงิน 17,117 บาท พร้อมดอกเบี้ย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th