ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปเป็นจำนวน 500,000 บาทมิได้กำหนดเวลาชำระคืนคิดดอกเบี้ยตามกฎหมายร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีโจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ต้นเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระในเดือนมีนาคม 2533 จำนวน 7,500 บาท และได้รับชำระหนี้ต้นเงินกู้จำนวน 500,000 บาท จากจำเลยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2533 จำเลยยังคงค้างชำระดอกเบี้ยจำนวน 7,500 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 7,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่า ดอกเบี้ยที่โจทก์ฟ้องเป็นดอกเบี้ยที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกินร้อยละสิบห้าต่อปี เป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง

ชั้นชี้สองสถาน โจทก์แถลงว่า ดอกเบี้ยที่ฟ้องว่าจำเลยค้างชำระเป็นเงิน 7,500 บาท เป็นค่าดอกเบี้ยเพียง 1 เดือน คือเดือนมีนาคม 2533 ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลย ให้งดชี้สองสถาน งดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 3,125 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้เพียงใดหรือไม่ เห็นว่าจากคำฟ้องและคำแถลงของโจทก์ในชั้นชี้สองสถานกับคำให้การของจำเลย ได้ความว่าโจทก์ฟ้องเรียกดอกเบี้ยจำนวน 7,500 บาท โดยคิดจากต้นเงินกู้จำนวน 500,000 บาท ในเวลา 1 เดือน ซึ่งเมื่อคิดคำนวณแล้วเป็นการฟ้องเรียกดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้ในอัตราร้อยละสิบแปดต่อปี เกินอัตราที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 กำหนดไว้ เป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475ข้อกำหนดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 (113 เดิม) โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยในอัตราร้อยละสิบแปดต่อปีคิดเป็นเงินค่าดอกเบี้ยจำนวน7,500 บาท ดังกล่าวและเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ผิดนัดชำระหนี้ต้นเงินกู้จำนวน 500,000 บาท ให้แก่โจทก์ อันจะเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินกู้จำนวน 500,000 บาท ดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 จึงเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยไม่ว่าเป็นจำนวนเงินเพียงใด

พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th