ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 264, 265, 268, 352, 341

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 (ที่ถูก 264 วรรคแรก), 268 (ที่ถูก 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 264 วรรคแรก), 341, 352 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม จำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมแต่กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง อันเป็นการกระทำกรรมเดียวกับความผิดฐานยักยอกและฉ้อโกง ซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม (ที่ถูก ฐานใช้เอกสารปลอม) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 18 เดือน (ที่ถูก ต้องระบุด้วยว่าคำขอและข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก)

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 (ที่ถูก 264 วรรคแรก), 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 264 (ที่ถูก 264 วรรคแรก), 352 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม จำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมแต่กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานยักยอกซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม (ที่ถูก ฐานใช้เอกสารปลอม) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ยกฟ้องความผิดฐานฉ้อโกง โทษและนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาแต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์บรรยายฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกรวมกันมา เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันเองและเคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายขายของโจทก์มีหน้าที่รับเงินค่าสินค้ากับจัดทำใบส่งของและใบเสร็จรับเงิน โดยเจตนาทุจริต ปลอมใบส่งของและใบเสร็จรับเงินโดยแก้ไขราคาสินค้าของโจทก์ที่จำเลยจำหน่ายแก่ลูกค้า ให้ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงของสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ อันเป็นการหลอกลวงโจทก์ให้หลงเชื่อว่าใบส่งของและใบเสร็จรับเงินดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริง แล้วจำเลยเบียดบังยักยอกเงินส่วนต่างของราคาสินค้าที่ลูกค้าชำระไปเป็นของตน แม้ตามคำฟ้องจะเป็นการบรรยายความผิดฐานฉ้อโกงมาด้วย ดังที่จำเลยเข้าใจในฎีกา แต่การกระทำอันเดียวกันอาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอกฐานหนึ่งฐานใดก็ได้ และเป็นเรื่องในใจของจำเลยว่า จำเลยมีเจตนาปลอมใบส่งของและใบเสร็จรับเงินเพื่อการหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง หรือเพื่อปกปิดการกระทำความผิดฐานยักยอกของตน กรณีจึงไม่ทำให้จำเลยไม่เข้าใจฟ้องหรือหลงต่อสู้แต่อย่างใด ทั้งฟ้องของโจทก์ประสงค์ให้ศาลเลือกลงโทษจำเลยแต่เพียงฐานใดฐานหนึ่งเท่านั้น จึงไม่เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันเองหรือเคลือบคลุม ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.259/2565

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th